5 สิ่งที่นักลงทุน Bitcoin ควรจับตามองในสัปดาห์นี้

ราคา Bitcoin ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคมกำลังมีท่าทีที่สวยงามด้วยการกลับมาพุ่งแตะที่ราคา 46,000 ดอลลาร์ซึ่งนับว่าเป็นราคาที่สูงสุดที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคมในปีนี้ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมากราฟ BTC/USD กราฟได้เปลี่ยนเป็นขาขึ้นในที่สุด โดยได้มีการเริ่มพุ่งขึ้นสูงของราคาในวันเสาร์ที่ผ่านมา ราคา Bitcoin ที่ร่วงลงอย่างมากในปี 2022 เมื่อเทียบกับสภาพในปัจจุบันแล้ว Bitcoin ได้พยายามที่จะพุ่งทะลุแแนวต้านเพื่อที่จะลุ้น Break out แต่ทว่าการพุ่งขึ้นของราคา Bitcoin ไม่สามารถที่จะทะลุออกไปได้ อย่างไรก็ตามหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ราคา Bitcoin ก็ได้ร่วงต่ำลงอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ได้รายงานว่า หากราคาของ Bitcoin สามารถยืนอยู่เหนือราคา $42,000 และสามารถทะลุไปจนถึงราคาที่ $46,200 ได้ก็เพียงพอแล้วที่ตลาดคริปโตจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นโดยเฉพาะ Bitcoin โดยในราคาปัจจุบันนี้มีอุปสรรคที่สำคัญสุดท้ายก็คือแนวต้าน ซึ่งบางเหตุการณ์และปัจจัยต่างๆที่เกิดขึ้นอาจจะส่งผลต่อราคาของ Bitcoin ก็เป็นได้ โดยมีผู้คนมากมายกล่าวว่าการที่ราคา Bitcoin ได้ทำราคาถึง $46,000 ถือเป็นนัยยะสำคัญที่จะทำให้ราคา Bitcoin พุ่งสูงขึ้นอย่างแน่นอน นาย Willy Woo นักวิเคราะห์และนักสถิติรายงานว่า “ราคาของ Bitcoin ได้พุ่งเข้าสู่ตลาดกระทิงแล้ว” ในขณะเดียวกัน นาย Matthew Hyland ได้วิเคราะห์ว่าแนวต้านสำคัญสุดท้ายของ bitcoin จะอยู่ที่ราคา $52,000 โดยเขาได้แสดงความคิดเห็นในทวิตเตอร์ของเขาด้วยว่า การเคลื่อนไหวของกราฟนั้น หากดูตามเครื่องมือ (Indicator) อย่าง RSI จะสามารถดูได้ว่ามีการซื้อเกิน (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold) และในกรณีของ Bitcoin นั้น ราคาพุ่งขึ้นจากระดับล่างตั้งแต่กลางเดือนมกราคม ดังนั้น การพัฒนา RSI เพิ่มเติมจึงสามารถกำหนดขอบเขตได้ตามพฤติกรรมของกราฟในอดีต นักวิเคราะห์มองว่า Bitcoin จะแยกตัวออกหุ้น อัตราเงินเฟ้อ ในช่วงยุคสงครามเช่นนี้ นอกจากปัญหาสงครามแล้วยังเกิดภาวะเงินเฟ้อซึ่งได้กระทบกับเศรษฐกิจทั่วโลก นอกจากนั้นยังมีในเรื่องของโรคระบาด ซึ่งจากการคาดการณ์ถึงความกลัวที่มีต่อตลาดหุ้นและและตลาดคริปโตในปี 2022 มีหลายแหล่งข่าวได้เตือนว่าในไม่ช้า Bitcoin อาจเผชิญกับ Waterloo (ช่วงที่เจ้ามือกว้านซื้อเหรียญในราคาต่ำ) ยุคที่เงินหาง่าย ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์นั้นหายไปแล้ว และมีเพียงการผ่อนคลายเชิงปริมาณที่ต่อเนื่องเท่านั้นที่จะนำกระแสเงินทุนมหาศาลที่ Bitcoin กลับมาใช้อีกครั้งในปีนั้น บางคนแย้ง อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ Bitcoin