简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:การลงทุนหุ้นแบบ DCA เพื่อทยอยลงทุนในหุ้น เหมาะกับตลาดหุ้นในภาวะขาลง ที่ราคาหุ้นและสินทรัพย์ต่างๆ ปรับตัวลดลงมากในขณะนี้หรือไม่ และการลงทุนในลักษณะนี้เหมาะกับนักลงทุนประเภทใด และเหมาะกับหุ้นประเภทใดบ้าง
จากภาวการณ์ความผันผวนและปรับตัวลดลงรุนแรงของตลาดหุ้นในช่วงที่ผ่านมา ผู้ลงทุนที่มีพอร์ตหุ้นอยู่อาจต้องพบกับภาวะขาดทุน ในขณะที่หลายท่าน (ที่ยังมีเงิน) อาจใช้เป็นโอกาสในการเลือกลงทุนหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานในราคาต่ำ หรือผู้ที่ยังไม่เคยลงทุนก็อาจใช้เป็นโอกาสในการเริ่มลงทุน ซึ่งสำหรับผู้มีเงินลงทุนไม่มากหรือไม่ต้องการจะนำเงินมาซื้อหุ้นในครั้งเดียว การลงทุนหุ้นแบบ DCA เพื่อทยอยลงทุนในหุ้นนับเป็นทางเลือกหนึ่ง
ซึ่งในภาวะตลาดเช่นนี้ หลายท่านอาจมีคำถามว่าแนวคิด DCA เหมาะกับภาวะตลาดขาลงหรือไม่ หากที่ผ่านมาใช้ DCA อยู่ ควรจะปรับวิธีลงทุนหรือไม่อย่างไร และควรใช้ DCA อย่างไรจึงจะเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
การลงทุนแบบ DCA (dollar-cost average) คือ การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน โดยกำหนดมูลค่าการลงทุนเป็นงวดๆ งวดละเท่าๆ กัน เช่น ลงทุน 1,000 บาทในทุกๆ สัปดาห์ โดยไม่สนใจว่าราคาหุ้นหรือกองทุนรวมจะเพิ่มหรือลดอย่างไร หากราคาปรับตัวลดลง ก็จะทำให้ซื้อหุ้นได้จำนวนมากขึ้น แต่หากราคาปรับเพิ่มขึ้นก็จะทำให้ซื้อหุ้นได้ในจำนวนลดลง ผู้ลงทุนไม่ต้องคอยลุ้นว่าราคาขึ้นลงเมื่อไร เป็นการลดภาระในการติดตามข่าวสารและราคา ทำให้ผู้ลงทุนสามารถสร้างวินัยในการลงทุนเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ในระยะยาว
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ดัชนี SET Index เคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,300-1,800 จุด ก่อนจะลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 1,200-1,300 จุดในปัจจุบัน ผู้ลงทุนที่ใช้วิธี DCA ในการสะสมหุ้นหรือกองทุนหุ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จึงมีผลขาดทุนในพอร์ตลงทุน และอาจมีความกังวลว่าราคาหุ้นอาจจะลดลงอีก ควรหยุดการ DCA ไว้ชั่วคราวหรือไม่
ในส่วนนี้ อยากเน้นว่าหัวใจของการ DCA คือการสร้างวินัยลงทุนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในระยะยาว โดยทยอยลงทุนไปเรื่อยๆ ซึ่งอาจจะมีช่วงทั้งหุ้นแพงและหุ้นถูก ต้นทุนรวมของการทำ DCA จะเป็นราคาเฉลี่ยตลอดช่วงการลงทุน ในภาวะที่หุ้นตกจึงเป็นโอกาสที่จะทำให้ได้ต้นทุนเฉลี่ยที่ต่ำลง อันจะส่งผลดีต่อการลงทุนระยะยาว การหยุด DCA ในช่วงที่หุ้นราคาถูกจะทำให้ต้นทุนรวมในระยะยาวไม่ลดลง และอาจไม่ตรงกับเป้าหมายการลงทุนที่ตั้งไว้ ดังนั้น ในช่วงตลาดขาลง ผู้ลงทุนจึงยังควรทำ DCA อย่างต่อเนื่อง
อย่าลืมว่าการทำ DCA เป็นการตัดการใช้อารมณ์ในการลงทุน โดยทั่วไปแล้วตลาดหุ้นขาลงมีหลายระยะ ตั้งแต่ช่วงที่ราคาเริ่มลดลง ซึ่งมักจะยังมีแรงซื้อเข้ามาเพื่อถัวเฉลี่ยต้นทุน และต่อมาแรงซื้อเริ่มลดลง ราคาหุ้นจะลดลงถึงจุดต่ำสุด ซึ่งอาจมีผู้ลงทุนที่ตัดใจขายขาดทุนและออกจากตลาด ต่อมาเมื่อราคาหุ้นเริ่มฟื้นตัวขึ้น ก็จะยังมีแรงซื้อไม่มากนักเพราะอาจเชื่อว่าหุ้นยังไม่ผ่านจุดต่ำสุดไป ก่อนที่จะปรับตัวขึ้น ซึ่งยากที่จะมีผู้คาดการณ์ว่าหุ้นอยู่ในช่วงไหนได้ถูกต้อง หรือบอกได้ว่าราคาถึงจุดต่ำสุดแล้วหรือยัง การซื้อหุ้นแบบ DCA จึงตัดอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งช่วยลดการตัดสินใจแบบไม่สมเหตุสมผลและช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถเดินตามแผนการลงทุนที่วางไว้ได้ง่ายยิ่งขึ้น
แม้ว่าการทำ DCA จะเป็นการลงทุนที่มีแบบแผนชัดเจนและตายตัว แต่สิ่งที่ควรคำนึงอีกปัจจัยสำคัญคือ การเลือกหุ้นที่จะทำ DCA ที่เหมาะสมกับเป้าหมายการลงทุนของตนเอง ดังนั้น ผู้ลงทุนยังควรต้องมีการวิเคราะห์เลือกหุ้น และทบทวนว่าหุ้นที่อยู่ใน DCA List ของท่านมีความแข็งแกร่งเพียงพอและเหมาะสมการเปลี่ยนแปลงของสภาวะการลงทุน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังวิกฤตการณ์ที่อาจทำให้สภาวะการลงทุนหรือปัจจัยพื้นฐานของหุ้นที่ได้เลือกไว้เปลี่ยนแปลงไป โดยผู้ลงทุนอาจพิจารณาเปลี่ยนการทำ DCA จากในหุ้นที่ได้รับผลกระทบรุนแรงและยากต่อการฟื้นตัวหลังวิกฤติ เป็นหุ้นที่ยังมีความแข็งแกร่งหรือมีโอกาสเติบโตในสภาพแวดล้อมหลังวิกฤตการณ์
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
ช่วง ตอบคำถามจากทางบ้าน! แฟน ๆ ของ WikiFX หลายคนส่งคำถามเข้ามาว่า หุ้น กับ Forex นี่มันอันเดียวกันรึเปล่า หรือมันต่างกันยังไง อะไรน่าลงทุนกว่า? เล่นหุ้นมาก่อน ลองเทรด Forex ได้ไหม? ทางเราไม่รอช้า รวบรวมคำตอบมาให้แล้วในบทความนี้!
วันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักเทรดเดอร์วัยเด็ก ซึ่งผู้โชคดีจากเหตุการณ์นี้ กับ “เจเดน คาร์” จากเมืองซาน แอนโทนิโอ ในรัฐเท็กซัส
ราคาหุ้นเทสลา ปรับตัวลงอีก 0.12% ในช่วงเช้านี้ หลังมีรายงาน ยอดสั่งซื้อรถยนต์ พ.ค.ของเทสลา ในประเทศจีนลดลงเกือบครึ่งหนึ่งจากเดือนเม.ย. เนื่องจากที่รัฐบาลจีนพยายามตรวจสอบรถยนต์เทสลา
วันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักนักลงทุนชาวไทยที่ประสบความสำเร็จระดับพันล้าน ผู้มีปริมาณการซื้อขายหุ้นมาแล้วทั้งชีวิตกว่า 1 ล้านล้านบาท คร่ำหวอดในวงการนี้มากว่า 3 ทศวรรษ กับ “เสี่ยป๋อง วัชระ แก้วสว่าง”