简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:- ทองคำเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ปรับตัวขึ้นหมดยกเว้นดอลลาร์ - ทองคำเทียบดอลลาร์กำลังมุ่งหน้าขึ้นทดสอบจุดสูงสุดของปี 2011 - ยังมีความเป็นไปได้อีกมากให้ทองคำได้วิ่งขึ้นอีก
ราคาทองคำสามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้อีกครั้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วหลังจากราคาซื้อขายทองคำล่วงหน้าในตลาด COMEX ที่จะส่งมอบกันในเดือนสิงหาคมขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดเอาไว้ที่ $1,829.80 จากมุมมองการวิเคราะห์ทางเทคนิคแล้วมีโอกาสที่ราคาจะสามารถขึ้นไปถึง $1,920.70 ต่อออนซ์ได้เลยทีเดียว จุดสูงสุดของสัปดาห์ที่แล้วอยู่ห่างจากจุดสูงสุดของราคาทองคำในรอบ 9 ปีเพียง $100 เท่านั้น แม้แต่ในขณะที่กำลังเขียนบทความนี้ราคาทองคำสปอตก็ยังวิ่งอยู่บริเวณ $1,803.75
หนึ่งในสัญญาณที่บ่งชี้ขาขึ้นของทองคำเกิดขึ้นตั้งแต่ในช่วงต้นของปี 2000 ว่าทองคำจะสามารถขึ้นต่อไปได้มาจากการเทียบราคาทองคำกับสกุลเงินหลักต่างๆ ถามว่าทำไม? คำตอบเป็นเพราะธนาคารกลางทั่วโลกจะถือทองคำเอาไว้เป็นสินทรัพย์สำรองและหลักประกันค้ำสกุลเงินของตนเองเช่นดอลลาร์ ยูโรและสกุลเงินอื่นๆ เป็นต้น
ทองคำเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ปรับตัวขึ้นหมดยกเว้นดอลลาร์ในปี 2019 เมื่อราคาทองคำสามารถทะลุจุดสูงสุด $1,377.50 ของปี 2016 ขึ้นมาได้ ราคาทองคำก็ขยับตัวขึ้นไปเรื่อยๆ และไม่เคยคิดที่จะวกกลับลงมา
จากรูปกราฟรายเดือนด้านบนคือภาพตอนที่ราคาทองคำเทียบยูโรปรับตัวขึ้นยืนเหนือ 1377 ยูโรในเดือนสิงหาคมปี 2019 และยังขึ้นต่อไปเรื่อยๆ จุดสูงสุดของราคาทองคำเทียบยูโรตอนนี้อยู่ต่ำกว่า 1600 ยูโรต่อออนซ์
ราคาทองคำเทียบปอนด์ทะยานขึ้นเหนือจุดสูงสุด 1124 ปอนด์ของเดือนกรกฎาคมปี 2019 และพึ่งขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดเอาไว้ที่ 1450 ต่อปอนด์ได้เมื่อไม่นานมานี้
เช่นเดียวกันกับการเทียบแคนาดาดอลลาร์ กราฟมีจุดสูงสุดก่อนหน้านี้อยู่ที่ 1786 ในปี 2011 และตอนนี้มีจุดสูงสุดใหม่อยู่ที่ 2450 แคนาดาดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
กับออสเตรเลียดอลลาร์เองทองคำก็สามารถสร้างจุดสูงสุดเอาไว้ที่ 2590 ออสเตรเลียดอลลาร์ได้แม้ว่าตลอดทศวรรษจะมีการสลับขึ้นๆ ลงๆ ของราคาอยู่ตลอดเวลาก็ตาม
สุดท้ายสกุลเงินเยนทองคำก็สามารถขึ้นยืนเหนือจุดสูงสุดปี 2013 ที่ 152457 เยนได้และสร้างจุดสูงสุดเอาไว้ที่ 192500 เยนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยสรุปทองคำเมื่อเทียบกับสกุลเงินที่กล่าวมาสามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้ทั้งหมดซึ่งรวมไปถึงสกุลเงินหยวนของจีนและรูเบิ้ลของรัสเซีย
กลับกันเมื่อนำเอาสกุลเงินมาเทียบกับราคาทองคำก็พบว่ากราฟเหล่านั้นปรับตัวลดลงซึ่งแสดงให้เห็นถึงการอ่อนมูลค่าลงของสกุลเงินอย่างชัดเจน แม้จะมาช้าที่สกุลเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ แต่ก็ยังมาอยู่ จากการเทียบทองคำกับสวิตฟรังก์พบว่าต้องรอจนถึงปี 2020 ก่อนที่ทองคำจะสามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ที่สูงขึ้นกว่าเดิมได้
จากรูปจะเห็นว่าทองคำเทียบสวิตฟรังก์เคยมีจุดสูงสุดอยู่ที่ 1662.50 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2012 และพึ่งจะสามารถสร้างจุดสูงสุดได้ใหม่ที่ 1700 เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2020
ทองคำเทียบดอลลาร์กำลังมุ่งหน้าขึ้นทดสอบจุดสูงสุดของปี 2011สกุลเงินดอลลาร์คือสกุลเงินเดียวที่เมื่อเทียบกับทองคำแล้วยังไม่ปรับตัวลดลง แม้ว่าสกุลเงินดอลลาร์จะได้ชื่อว่าเป็นสกุลเงินที่ทำหน้าที่เป็นสินทรัพย์สำรองของโลกแต่จากพฤติกรรมราคาก็บอกให้เราทราบว่าเหลือเพียงปัจจัยแห่งเวลาเท่านั้นก่อนที่ดอลลาร์จะค่อยๆ เสื่อมมูลค่าลงในขณะที่ทองคำทำหน้าที่เป็นสินทรัพย์สำรองปลอดภัยมาอย่างช้านานแล้ว
จากรูปกราฟทองคำเทียบดอลลาร์ด้านบนชี้ให้เห็นว่าราคาทองคำสามารถทะลุแนวต้านทางเทคนิคขึ้นมาได้ทั้งหมด ไม่มีใครสามารถขวางเส้นทางการขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเมื่อปี 2011 ที่ $1,920.70 ได้ ล่าสุดราคาทองคำพึ่งสร้างจุดสูงสุดเอาไว้ที่ $1,830 จุดที่น่าสนใจคือเมื่อเทียบยอดคำสั่งซื้อกับขายในตลาด COMEX พบว่าสัญญาคำสั่งส่วนใหญ่เทไปทางขาขึ้นแทบทั้งสิ้น
แม้อินดิเคเตอร์และพฤติกรรมราคาจะอยู่ในโซน overbought มานานแล้วนับตั้งแต่ปี 2019 แต่ราคาทองคำอาจสามารถยืดระยะเวลาขาขึ้นไปได้อีกสักระยะ ก่อนหน้านี้ตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคมปี 2008 มาจนถึงวันที่ปี 2011 ราคาทองคำก็เคยสร้างขาขึ้นต่อเนื่องมา 11 ไตรมาสติดต่อกัน
เหตุผลสนับสนุนขาขึ้นข้อสุดท้ายของทองคำคือก่อนสิ้นสุดสัปดาห์ที่แล้วดัชนีวัดความผันผวนได้แกว่งมากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ของไตรมาสมากถึง 12.19% สะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
ยังมีความเป็นไปได้อีกมากให้ทองคำได้วิ่งขึ้นอีกหากว่าราคาทองคำสามารถขึ้นทะลุแนวต้านตลอดกาลที่ $1,920.70 ของปี 2011 ได้จริง มีโอกาสสูงมากที่นักลงทุนจะเกิดความเชื่อมั่นและดันราคาทองคำให้ยิ่งสูงขึ้นไปอีก นักวิเคราะห์จากธนาคารชื่อดังซิตี้กรุ๊ปได้ประเมินว่าทองคำมีโอกาสขึ้นถึง $2000 ต่อออนซ์ก่อนที่การระบาดของเชื้อโควิดจะจบลง แบงก์ ออฟ อเมริกาถึงกับประเมินไว้ที่ $3000 เลยด้วยซ้ำ
ทุกๆ ครั้งที่ราคาทองคำสามารถขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้ไม่ใช่เรื่องที่น่าดีใจเพราะนั่นหมายความว่าโอกาสการล่มสลายของมูลค่าเงินในกระเป๋าที่เราถือกำลังเพิ่มสูงขึ้น ราคาทองคำที่สูงขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงจุดอ่อนของระบบการเงินโลกที่นับวันยิ่งอ่อนแอลงเรื่อยๆ
โดยสรุปแล้วราคาทองคำกำลังบอกกับพวกเราว่าความศรัทธาในระบบสกุลเงินกำลังเสื่อมถอย เครดิตทางการเงินเริ่มมีความสำคัญน้อยลง ยิ่งธนาคารกลางกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการปั้มเงินมากเท่าไหร่ราคาทองคำยิ่งได้โอกาสปรับตัวสูงขึ้น ใครจะไปรู้ราคาทองคำอาจจะขึ้นไปไกลเกินกว่าที่นักวิเคราะห์เหล่านี้คาดการณ์ไว้ก็เป็นได้
**สามารถติดตามข่าวเศรษฐกิจหรือบทวิเคราะห์คู่เงิน ทอง น้ำมัน หุ้น จากแอพ WikiFX ได้เท่านั้น! และขอขอบคุณบทวิเคราะห์นี้จาก Andy Hecht ขอขอบคุณภาพประกอบจาก:CQG
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
ATFX
FxPro
Tickmill
FBS
IC Markets Global
TMGM
ATFX
FxPro
Tickmill
FBS
IC Markets Global
TMGM
ATFX
FxPro
Tickmill
FBS
IC Markets Global
TMGM
ATFX
FxPro
Tickmill
FBS
IC Markets Global
TMGM