แม่ทีม Fingo หันกลับไปปัดฝุ่่นทำตลาด Youpik อีกครั้ง

หลังจากต้องหยุดงานเพราะพิษโควิด-19 เป็นเวลานาน ทำให้ใครหลายๆคนต้องหยุดงานจากงานประจำที่เคยทำ และหันหน้ามาขายของออนไลน์แทนกันมากมาย และเมื่อไม่นานมานี้ได้มีเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ที่มาในรูปแบบแอพพลิเคชั่นขายของเข้ามาระบาดอย่างหนักนั่นคือ แอพ “Fingo” ที่เป็นข่าวดังมาไม่นานมานี้นี่เอง

Fingo เป็นแอพขายของที่มีการยกระดับจากผู้ซื้อปกติเป็นผู้ร่วมทำธุรกิจ โดยจะเสียค่าสมัครสมาชิกอยู่ที่ 1,599 บาท และหากสามารถเชักชวนให้ผู้อื่นสั่งสินค้าผ่าน link ที่มีให้ จะได้รับค่าคอมมิชชั่น 10% ขึ้นไป ยังไม่หมดถ้ายังสามารถเชิญชวนให้ผู้อื่นมาสมัครสมาชิกด้วยได้จะได้รับค่าคอมมิชชั่นอีก 375 บาทต่อคนอีกด้วย

แต่เมื่อไม่นานมานี้ Fingo ได้ถูกตรวจสอบอย่างหนัก เนื่องจากมีการร้องเรียนว่าสินค้าของทาง Fingo นั้นไม่ได้คุณภาพ สินค้าที่ได้รับนั้นไม่คุ้มกับเงินที่จ่ายไป และอีกเรื่องที่สำคัญคือ Fingo ได้แจ้งไว้ว่า ห้ามมีบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีเข้าสมัครสมาชิกร่วมทำธุรกิจ แต่กลับมีแม่ทีมบางรายได้โพสต์รูปนักเรียนมัธยม หนักสุดคือวัยประถม ถ่ายรูปพร้อมถือเงินจำนวนมากและได้เขียนอ้างอิงว่าได้เงินมาจากแอพ Fingo ทางผู้บริหาร Fingo เลยได้ออกมาแจ้งว่าขอยุติการจ่ายค่าคอมมิชชั่นชั่วคราวอีกด้วย

หลังจากที่ทางผู้บริหารได้ออกมาแจ้งว่าขอยุติการจ่ายค่าคอมมิชชั่น ทำให้แม่ทีมรายใหญ่หลายๆคนได้โยกย้ายกลับไปทำตลาดของแอพ Youpik อีกครั้ง ซึ่งจริงๆแล้วแอพ Youpil กับ Fingo นั้นเปิดตัวในระยะเวลาที่ใกล้เคียงกัน แต่ทางผู้บริหารได้ทำตลาดของ Fingo อย่างจริงจัง จึงทำให้แอพ Fingo ได้รับความนิยมมากกว่าแอพ Youpik

ถ้าสังเกตุดูดีๆจะดูออกเลยว่าแอพ Youpik และ Fingo นั้นมีหน้าตาของแอพและวิธีการการดำเนินกิจการคล้ายๆกัน คือ แอพนั้นมีการขายสินค้ามากมายเหมือนกัน มีการยกระดับจากลูกค้ามาเป็นผู้ร่วมธุรกิจ มีการจ่ายค่าคอมมิชชั่นถ้าหากขายสินค้าได้ และถ้าหากชวนคนมาสมัครสมาชิกได้ก็ยังได้ค่าคอมมิชชั่นเหมือนกันอีกด้วย

เอาเป็นว่า แอพ Fingo และ Youpik นั้นเหมือนกันอย่างกับแฝดเลยทีเดียว เพียงแต่ค่าสมัครสมาชิกของแอพ Youpik นั้นมีราคาที่ถูกกว่า Fingo และสินค้าของ Youpik นั้นก็มีการนำสินค้าแบรนด์เนมเข้ามาผสมด้วย จึงทำให้ยังไม่มีเสียงบ่นจากลูกค้ามากนัก

แต่ถึงอย่างไรก่อนจะตัดสินใจซื้อสินค้าหรือลงทุนอะไรสักอย่าง อยากให้ตรวจสอบให้ดีก่อนการลงทุนจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพต่างๆได้

และถ้าหากไม่อยากตกเป็นเหยื่อของกลโกงโบรกเกอร์ต่างๆนั้น สามารถเข้าไปตรวจสอบความปลอดภัยของโบรกเกอร์ได้ที่แอพพลิเคชัน WikiFX ซึ่งเป็นแอพที่ทำการตรวจสอบโบรกเกอร์และรวบรวมข้อมูลของโบรกเกอร์ทั่วโลกเอาไว้ในที่เดียว