简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ราคาทองขึ้น เพราะอะไร ? วิเคราะห์ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำ ปี 2563 พุ่งไม่หยุด
ปี 2020 ถือเป็นปีที่สินทรัพย์ทางการเงินปรับตัวผันผวนมาก โดยการแพร่ระบาดของ Covid-19 ที่เริ่มต้นที่ประเทศจีนในเดือนมกราคมเป็นปัจจัยหลักที่เข้ามาทำให้ราคาสินทรัพย์ต่าง ๆ มีความผันผวน ตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลงแรงในเดือนมีนาคมก็มีการฟื้นตัวที่ดี โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ดัชนี S&P 500 ให้ผลตอบแทนในปี 2020 (YTD) เป็นบวกได้แล้ว จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีเป็นหลัก ตลาดหุ้นจีนที่ปิดประเทศและเปิดประเทศก่อนใคร เศรษฐกิจก็มีการฟื้นตัวดี ส่งผลให้ GDP ในไตรมาส 2 กลับมาขยายตัวได้อีกครั้ง
แต่ตลาดหุ้นที่ฟื้นตัวได้ดีก็ยังสู้สินทรัพย์ประเภทหนึ่งไม่ได้ สินทรัพย์ที่ว่านั้นก็คือ “ทองคำ” นั่นเอง ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เข้าปี 2020 เราลองมาดูปัจจัยต่าง ๆ ที่เข้ามาในตลาดการเงินและส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นกันครับ
เข้าปี 2020 โลกเราก็ร้อนระอุขึ้นมาทันทีหลังสหรัฐฯ ได้ให้เครื่องบินโดรนไปยิงจรวดใส่รถยนต์คันหนึ่งที่กำลังเดินทางไปสนามบินแบกแดดในประเทศอิรัก ซึ่งรถยนต์คันนั้นมีนายพลคนสำคัญของประเทศอิหร่านชื่อว่า กาเซ็ม สุไลมานี่ ส่งผลให้ความตึงเครียดในตะวันออกกลางพุ่งสูงขึ้นทันที แต่นับว่าเป็นโชคดีของชาวโลกที่ความขัดแย้งจบลง (ชั่วคราว) อย่างรวดเร็วภายใน 2 สัปดาห์ แต่ราคาทองคำก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นระลอกแรกของปี
เหตุการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางจบไปได้ไม่นาน ก็เกิดการแพร่ระบาดของ Covid-19 ในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยของจีน ในช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีนเพียงไม่นานนัก ส่งผลให้จีนต้องปิดประเทศ แต่ก็ดูเหมือนจะสายไปแล้ว การแพร่ระบาดได้เริ่มกระจายไปในประเทศต่าง ๆ และส่งผลให้การแพร่ระบาดกระจายตัวไปทั่วโลก แต่ขณะนั้นตลาดหุ้นก็ยังไม่ได้รับผลกระทบรุนแรงมาก ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังทำจุดสูงสุดใหม่ได้ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ และเริ่มปรับตัวลดลง ด้านราคาทองคำก็ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุ 1,700 เหรียญได้เป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปีในช่วงต้นเดือนมีนาคม
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์ แต่ราคาทองคำไต่ระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว จนมาแตะที่ระดับ 1,700 เหรียญ แต่ราคาทองคำก็ต้องมาเผชิญกับภาวะที่นักลงทุนทั่วโลกตื่นกลัวอย่างสุดขีด ขายสินทรัพย์ทางการเงินทุกอย่างออกหมดเพื่อถือเงินสดในสกุลดอลลาร์สหรัฐ ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วมาที่ระดับ 1,450 เหรียญในช่วงกลางเดือนมีนาคม ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed ต้องออกมาลดดอกเบี้ยฉุกเฉินถึง 2 ครั้งในเดือนมีนาคม และกดดอกเบี้ยลงมาอยู่ที่ระดับต่ำที่สุด 0 – 0.25%
จากนั้นไม่นานนัก ธนาคารกลางสหรัฐฯ เจ้าเดิมได้มีการประกาศทำ QE แบบ Unlimited ซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้า หุ้นกู้บริษัทเอกชนก็ซื้อ และถึงขนาดซื้อหุ้นกู้ของบริษัทเอกชนที่ต่ำกว่าระดับลงทุนได้หรือ High Yield เพื่อช่วยประคองไม่ให้เศรษฐกิจต้องล้มแบบโดมิโน่ ด้านสภาคองเกรซได้อนุมัติวงเงินเยียวยาฉุกเฉินมูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลือคนว่างงาน โดยจะได้รับเช็คช่วยเหลือสัปดาห์ละ 600 ดอลลาร์จนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมที่เพิ่งจบไป และในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้เองที่ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่หยุดจนถึงวันนี้
ราคาทองคำมีสะดุดบ้างในช่วงต้นเดือนมิถุนายน หลังที่ตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนหรือ ADP Nonfarm Payroll ขยายตัวได้ดีมาก ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ เริ่มแตะเบรกการทำ QE จากไม่จำกัดกลายมาเป็นไม่เกินเดือนละ 120,000 ล้านดอลลาร์ ราคาตอบรับในด้านลบในช่วงสั้น ๆ และปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อ
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีมากในเดือนกรกฎาคม มาจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าอย่างรุนแรง ดัชนี US Dollar Index ปรับตัวลดลงมาที่ระดับ 93 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 2 ปี จากการลดถือครองเงินสดในสกุลดอลลาร์หลังนักลงทุนเชื่อว่าเศรษฐกิจจะมีการฟื้นตัวต่อเนื่อง และหันมาถือสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้น ตราสารหนี้ และทองคำมากขึ้น รวมถึงสภาคองเกรซกำลังออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการคลังระลอกใหม่ที่มีมูลค่าราว 1 ล้านล้านดอลลาร์ ด้านธนาคารกลางสหรัฐฯ ก็ออกมาแสดงจุดยืนว่าจะคงดอกเบี้ยในระดับต่ำมากไปอีกพักใหญ่
ETF ทองคำได้เพิ่มการถือครองทองคำอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ ETF ทองคำมีการถือครองทองคำมากขึ้นในปี 2020 ราว 25 ล้านทรอยออนซ์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2019 ราว 30% ในช่วงสิ้นเดือนกรกฎาคม ปริมาณทองคำที่ ETF ทองคำถืออยู่ทั้งหมดอยู่ที่ราว 107.9 ล้านทรอยออนซ์ ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 30% ในปี 2020
ด้วยปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าสถิติเดิมที่ทำไว้ในเดือนกันยายนปี 2011
การปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรงของราคาทองคำ ส่งผลให้เริ่มมีความเคลื่อนไหวเพื่อลดความร้อนแรงลง ธนาคารขนาดใหญ่ในจีนอย่าง ICBC และ Bank of China เริ่มออกมาตรการเพื่อลดการทำธุรกรรมเกี่ยวกับการเก็งกำไรในโลหะมีค่าลงและช่วยป้องกันไม่ให้นักลงทุนเข้ามารับความเสี่ยงที่มากเกินความจำเป็น
จากต้นปี 2020 จนถึงวันนี้ ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงถึง 30% แต่นักลงทุนก็ไม่ควรลงทุนในทองคำมากจนเกินความจำเป็น โดยนักลงทุนสามารถลงทุนในทองคำผ่านการซื้อทองคำแท่ง กองทุนทองคำ หรือ ETF ทองคำก็สามารถทำได้
แต่ก่อนที่จะลงทุนในทองคำ เราจะต้องรู้จักตัวเองก่อนว่าสามารถรับความเสี่ยงได้มากน้อยขนาดไหน ถึงแม้ช่วงที่ผ่านมาทองคำจะให้ผลตอบแทนที่ดีมาก แต่เราก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าทองคำจะปรับตัวลดลงแรงเมื่อไหร่ หรือมีปัจจัยอะไรที่ทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างที่เคยเกิดขึ้นในปี 2012-2013 ที่ราคาทองคำปรับลดลงจาก 1,600 ดอลลาร์มาที่ 1,200 ดอลลาร์
ลงทุนให้พอดีและเหมาะสมกับความสามารถในการรับความเสี่ยงของตัวเราคือปัจจัยหลักที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จในการลงทุนในระยะยาวครับ
บทความโดย
เพิ่มศักดิ์ จักร์มงคลชัย
รองผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยการลงทุน สายงานวิจัย
บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด
อัปเดทข่าวสารที่แอปพลิเคชัน WikiFX อีกทั้งสามารถตรวจสอบโบรกเกอร์และดูค่าเงินผันผวน
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
ราคาทองคำร่วงลงในเช้าวันพุธ ในเอเชีย โดยพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลง จากความเชื่อมั่นด้านความเสี่ยงที่ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย และหนุนราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น
โควิด-19 สายพันธุ์โอมครอนแล้ว Bitcoin ในปี 2022 เป็นการสร้างรายได้ใหม่และเงินเฟ้อช่วยหนุน ประเด็นเหล่านี้กำลังมีผลต่อทองคำ
สรุป ราคาทองคําวานนี้ปิตทะยานขึ้น 14.09 ตอลลาร์ต่อออนซ์ ระหว่างวันการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์ และการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
สรุป ราคาทองคําวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.31 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคําวานนี้ได้รับแรงหนุนจากความวิตกเกี่ยวกับความรุนแรงของ COVID-19
EC Markets
FP Markets
VT Markets
Octa
IC Markets Global
GO MARKETS
EC Markets
FP Markets
VT Markets
Octa
IC Markets Global
GO MARKETS
EC Markets
FP Markets
VT Markets
Octa
IC Markets Global
GO MARKETS
EC Markets
FP Markets
VT Markets
Octa
IC Markets Global
GO MARKETS