รู้จัก 'ท่าขี้เหล็ก' จุดเสี่ยงโควิด ที่ไทยต้องจับตา!

แม้จนขณะนี้ (ณ วันที่ 3 ธ.ค.) ไทยสามารถควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี โดยมีผู้ติดเชื้อสะสมทั่วประเทศเพียงกว่า 4,000 รายและส่วนใหญ่รักษาหายแล้ว แต่สิ่งที่ดูจะเป็น “จุดอ่อน” ของสถานการณ์นี้คือ แนว “พรมแดนธรรมชาติ” ยาวถึงประมาณ 2,400 กม. ติดกับเมียนมา

เรื่องที่น่ากังวลคือ พรมแดนธรรมชาตินี้กินพื้นที่ครอบคลุม 10 จังหวัดของไทย รวมถึงเชียงราย เชียงใหม่ ตาก และระนอง ขณะเดียวกัน เมียนมากำลังเผชิญกับการระบาดรุนแรง โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 1,000 คนต่อวันในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เผยว่า หญิงไทยที่ถูกตรวจพบเชื้อโควิด 10 คน รวมถึงรายล่าสุดอีก 6 คนที่สธ.รายงานเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ลักลอบเข้าประเทศจากเมืองท่าขี้เหล็กของเมียนมาผ่านช่องทางธรรมชาติ

• เศรษฐกิจหลัก

ท่าขี้เหล็ก เป็นเมืองชายแดนในรัฐฉาน ทางตะวันออกของเมียนมา และถูกพัฒนาจนกลายเป็นประตูสู่ใจกลาง “สามเหลี่ยมทองคำ” ในปัจจุบัน ขณะที่จำนวนประชากรนับถึงปี 2557 อยู่ที่กว่า 51,000 คน

นอกจากนั้น รัฐบาลเมียนมายังพัฒนาเมืองท่าขี้เหล็กเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวและการค้าชายแดนกับลาว ไทย และจีน โดยที่ผ่านมา เศรษฐกิจของท่าขี้เหล็กพึ่งพาการค้าชายแดนและการท่องเที่ยว และสกุลเงินหลักที่คนท้องถิ่นใช้กันคือ “เงินบาท” ไม่ใช่ “เงินจ๊าด” ของเมียนมา

ส่วนเรื่องการเดินทางข้ามแดน หากไม่นับช่องทางธรรมชาติ ประชาชนสองฝั่งไทย-เมียนมา สามารถเดินทางผ่านสะพานมิตรภาพข้ามแม่น้ำแม่สาย ที่เชื่อมระหว่างท่าขี้เหล็กกับอ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งเป็นจุดเหนือสุดของประเทศไทย

ทุกคนที่เดินทางผ่านจุดผ่านแดนถาวรบริเวณสะพานแห่งนี้ จะต้องผ่านการตรวจคัดกรองโรคก่อนเข้าไปอีกประเทศหนึ่ง และนับตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ของไทยก็ตรวจตราแนวพรมแดนเข้มงวดมากขึ้น เพื่อป้องกันการข้ามแดนผิดกฎหมาย แม้ยังพบการลักลอบเข้าประเทศอยู่เนือง ๆ ก็ตาม

• แหล่งอโคจร

ที่ผ่านมา ท่าขี้เหล็กไม่ได้มีชื่อเสียงในแง่บวกเท่าใดนัก โดยถือเป็น “ทางผ่าน” สำหรับการค้ายาเสพติดบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ และเป็นแหล่งรวมกาสิโนและสถานค้าประเวณีขึ้นชื่อของเมียนมา

ข้อมูลของสธ. ระบุว่า หญิงไทย 10 คนที่ติดโควิด-19 ยังทำงานที่เดียวกันคือ โรงแรม “1G1HOTEL” ซึ่งถือเป็น “สถานบันเทิง” ชื่อดังของท่าขี้เหล็ก โดยภายในโรงแรมมีทั้งกาสิโน ห้องวีไอพี ดิสโก้ อาบอบนวด และบาร์คาราโอเกะ และตั้งอยู่ห่างจากชายแดนไทยเพียง 1.5 กม.

มีรายงานว่า หญิงไทยราว 70-100 คนทำงานเป็นพริตตี้รับแขกผู้ชายประจำคาราโอเกะและห้องวีไอพีของโรงแรมแห่งนี้

เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของโรงแรม 1G1HOTEL เผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า ขณะนี้ผู้จัดการโรงแรมถูกตำรวจควบคุมตัว ฐานละเมิดกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมโควิด-19 ของเมียนมา เนื่องจากเปิดให้บริการสถานบันเทิงในช่วงโรคระบาด

• แห่งสำคัญ

ท่าขี้เหล็กมีกาสิโนอยู่ 2 แห่ง ซึ่งมีตู้สล็อตและตู้เกมรวมกันกว่า 150 ตู้ และโต๊ะพนันอีกกว่า 20 โต๊ะ แต่ในเมียนมากาสิโนมีไว้สำหรับดึงดูดนักเสี่ยงโชคต่างชาติเท่านั้น

ทั้งสองแห่งมีชื่อว่า “อัลลัวร์ รีสอร์ท” (Allure Resort) และ “เรจินา กอล์ฟ คลับ โฮเต็ล แอนด์ กาสิโน” (Regina Golf Club, Hotel & Resort Casino)

กาสิโนขนาดใหญ่ที่สุดของท่าขี้เหล็กคือ อัลลัวร์ รีสอร์ท ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 325 ตร.ม. โดยมีจำนวนตู้เล่นพนันรวม 120 ตู้และโต๊ะพนันอีก 13 โต๊ะ รวมถึงห้องอาหาร 1 ห้อง

ส่วน เรจินา กอล์ฟ คลับ โฮเต็ล แอนด์ กาสิโน ครอบคลุมพื้นที่ 223 ตร.ม. โดยมีจำนวนตู้เล่นพนันรวม 30 ตู้และโต๊ะพนันอีก 12 โต๊ะ แต่ที่เป็นเอกลักษณ์ที่สุดของโรงแรมนี้คือ มีสนามกอล์ฟ 18 หลุมให้แขกได้ออกรอบด้วย

• การพนัน 2 มาตรฐาน

เมื่อเดือน พ.ค. ปีที่แล้ว ประธานาธิบดีวิน มินต์ของเมียนมา ลงนามกฎหมายเกี่ยวกับการพนันฉบับล่าสุด ซึ่งตั้งเป้าคุมเข้มการพนันทุกรูปแบบ และบังคับใช้เฉพาะกับพลเมืองเมียนมาเท่านั้น

กฎหมายดังกล่าวกำหนดให้ชาวเมียนมาที่ถูกจับได้ว่าเล่นการพนันมีความผิดทางอาญาและจะถูกตำรวจจับกุมทันที ขณะเดียวกัน พลเมืองที่ชี้เป้าแหล่งลักลอบเล่นพนันผิดกฎหมายต่อตำรวจ จะได้รับรางวัลนำจับ และจะได้รับรางวัลนำจับสูงขึ้น หากแจ้งข้อมูลที่นำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิด

อย่างไรก็ตาม กฎหมายนี้อนุญาตให้ชาวต่างชาติเข้าไปเล่นพนันในกาสิโนที่ขึ้นทะเบียนกับทางการได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ชาวต่างชาติรวมถึงคนไทยและจีนจำนวนไม่น้อย เข้าไปเสี่ยงโชคในท่าขี้เหล็กของเมียนมา