简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:กรมสุขภาพจิตเผยช่วงปี 63 อัตราฆ่าตัวตายคนไทยไต่ระดับขึ้น อยู่ที่ 7.3 ต่อแสนประชากร จากคงที่มา5-6 ปี เหตุปัจจัย 3 อันดับแรกยังคงเดิม ความสัมพันธ์ส่วนบุคคล-ภาวะป่วยกายหรือใจเรื้อรัง -ผลกระทบภาวะเครียดเศรฐกิจ เฝ้าระวังมากขึ้นในกลุ่มเปราะบาง
กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ในการแถลงสถานการณ์โควิด-19 พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิต ให้สัมภาษณ์ภายหลังการแถลงเรื่องเช็คอินหัวใจในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19ว่า จากที่อัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จของคนไทยอยู่ที่ 6 ต่อแสนประชากรคงที่มา 5-6 ปี แต่ในปี 2563 พบว่าอัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จไต่ระดับขึ้น อยู่ที่ 7.3 ต่อแสนประชากร
ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุปัจจัยของการฆ่าตัวตายที่ไต่ระดับขึ้นในปี2563เกิดจากสาเหตุใด พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า เหตุปัจจัยยังคงเรียงลำดับ 3 กลุ่มไม่แตกต่างจากปีที่ผ่านมา คือ 1.ปัญหาความสัมพันธ์ส่วนบุคคล กับคนใกล้ชิด หรือคนในครอบครัว ยังเป็นเหตุปัจจัยส่วนใหญ่ 2.ภาวะเจ็บป่วยทางกายเรื้อรัง หรือมีปัญหาสุขภาพจิต เช่น ซึมเศร้าอยู่เดิมแล้ว และ3.ผลกระทบจากภาวะเครียดเรื่องเศรษฐกิจ และค่าใช้จ่ายต่างๆ แต่น่าสังเกตว่าในช่วงปี 2563 กลุ่มที่ 3 ที่มีผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจเริ่มมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และเป็นกลุ่มที่ต้องเพิ่มการเฝ้าระวังมากขึ้น
เมื่อถามย้ำว่าระบุได้หรือไม่ว่าสถานการณ์โควิด-19มีผลต่อการฆ่าตัวตายที่สูงขึ้น พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า ไม่ได้ เนื่องจากเวลาเกิดเหตุปัจจัยในการฆ่าตัวตายมาจากหลายเหตุปัจจัยของแต่ละบุคคล เพียงแต่ในปี 2563 มีการไต่ระดับขึ้นของการฆ่าตัวตาย จึงทำให้ต้องมีการเฝ้าระวัง เพราะว่าโดยทั่วไปเวลาอยู่ในสถานการณืที่มมีภาวะวิกฤติก็มทีความเส่ายวงต่อกลบุ่มที่เดิมมีความเสี่ยงเดิมๆอยู่แล้ว ก็จะกลายเป็นเปราบางมากขึ้น จึงเป็นมาตรการที่จะต้องเตรียมในการเฝ้าระวังดูแล
พญ.พรรณพิมล กล่าวด้วยว่า สำหรับสภาวะสุขภาพจิตคนไทยขึ้นลงตามสถานการณ์ของโรคโควิด-19 โดยช่วงการระบาดใหญ่เมื่อปลายเดือนมี.ค.2563 พบว่ากลุ่มที่มีความเครียดสูงอยู่ที่ 8 % ซึ่งสูงกว่าเกรฑ์ปกติ เพราะโดยทั่วไปมีความเครียดจากการใช้ชีวิตปกติอยู่แล้ว โดยกลุ่มที่มีความเครียดสูงอยู่ที่ 2-3 % แต่เมื่อมีการระบาดของโรคกลุ่มเครียดมากเพิ่มเป็น 8 % หลังจากนั้นสถานการณ์ค่อยๆลดลงมา
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
FOREX.com
Tickmill
OANDA
STARTRADER
HFM
Vantage
FOREX.com
Tickmill
OANDA
STARTRADER
HFM
Vantage
FOREX.com
Tickmill
OANDA
STARTRADER
HFM
Vantage
FOREX.com
Tickmill
OANDA
STARTRADER
HFM
Vantage