简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:วันนี้เราจะมานำเสนออีกแง่มุมของเขา เมื่อปู่บัฟเฟตต์ คนนี้ ก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง มีวันที่เขาสำเร็จ ก็อาจมีวันที่ผิดพลาดได้เช่นกัน
เรามักเห็นบทความชื่นชมความสำเร็จของนักลงทุนมหาเศรษฐี ผู้เคยครองตำแหน่งบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกเมื่อปี 2008 อย่าง ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ อยู่บ่อยครั้ง แต่ในวันนี้เราจะมานำเสนออีกแง่มุมของเขา เมื่อปู่บัฟเฟตต์ คนนี้ ก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง มีวันที่เขาสำเร็จ ก็อาจมีวันที่ผิดพลาดได้เช่นกัน
1. ‘Dexter Shoes’
ย้อนไปเมื่อปี 1993 บัฟเฟตต์ตัดสินใจซื้อหุ้นของบริษัท Dexter Shoes โดยใช้วิธีการ “แลกหุ้น” ซึ่งคือการให้ Daxter ถือหุ้นของ Berkshire (บริษัทของปู่เอง) ในมูลค่าพอ ๆ กัน ขณะนั้นมูลค่าหุ้นที่แลกกันเบ็ดเสร็จอยู่ที่ 433 ล้านเหรียญ โดยเขาให้เหตุผลของการตกลงในครั้งนี้ว่า “เขาคิดว่าบริษัทนี้มีศักยภาพในการแข่งขัน และมีความได้เปรียบคู่แข่ง” แต่หลังจากนั้น ปี 2001 Dexter กลับได้ความนิยมน้อยลง ราคาสินค้าก็เริ่มไม่จูงใจ ทำให้มูลค่าหุ้นที่บัฟเฟตต์ ลงทุนไปลดลงเหลือ 220 ล้านเหรียญ ขณะที่หุ้นของ Berkshire นั้นปรับตัวขึ้นไปถึง 8 เท่า และเมื่อคิดมูลค่าหุ้นที่เอาไปแลกมานั้น กลายเป็นว่า Deal นี้ Buffett เสียเงินไปร่วม 3,500 ล้านเหรียญ และนั่นทำให้เขาออกมายอมรับว่า “นี่คือการลงทุนที่แย่ที่สุดเท่าที่เขาเคยทำมา”
2. Tesco
“การซื้อหุ้น Tesco คือ การลงทุนที่ผิดพลาด” บัฟเฟตต์เริ่มซื้อหุ้น Tesco ในปี 2007 และทยอยซื้อและถือเรื่อยมา จนปี 2013 เขามีหุ้น Tesco จำนวน 301,046,076 หุ้น มูลค่าประมาณ 1,699 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นสัดส่วน 3.7% แต่การลดลงอย่างต่อเนื่องของหุ้น Tesco ตลอดปี 2014 ส่งผลให้บัฟเฟตต์ มีอัตราการขาดทุน ประมาณ 712 ล้านดอลลาร์ โดยสาเหตุการลดลงอย่างมากของหุ้น Tesco เกิดจากการคาดการณ์รายได้ไว้สูง แต่ผลการดำเนินงานจริงต่ำกว่าเป้าหมาย รวมไปถึงสำนักหุ้นรายใหญ่ต่างฟันธงหุ้นไปในทางที่ไม่สู้ดีนัก ต่อมา บริษัท Tesco ก็เข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการ โดยทยอยขายกิจการบางส่วนในประเทศต่าง ๆ และลงทุนเพิ่มในบางส่วนคู่กันไป ก่อนที่จะประกาศว่าได้ฟื้นฟูบริษัทสำเร็จตามเป้าหมายในระดับหนึ่งแล้วเมื่อเดือน ตุลาคม 2019 ที่ผ่านมา และขณะนี้มีการขายกิจการในประเทศไทยและมาเลเซียแล้ว (เจ้าของในไทยและมาเลเซียคือ CP)
3. Amazon & Google
อีกหนึ่งความล้มเหลว คือการไม่ได้เข้าซื้อหุ้นบริษัทเทคโนโลยีแห่งยุค Amazon & Google เพราะเขาไม่เข้าใจในธุรกิจนี้ บัฟเฟตต์เคยกล่าวไว้ว่า เขาเสียดายที่พอร์ตของ Berkshire Hathaway ไม่มีหุ้น Amazon หรือ Google เพราะ ‘ไม่ค่อยเข้าใจโมเดลธุรกิจ’ แต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจ คือเมื่อได้รับบิลเรียกเก็บเงินจาก Google มายัง Geico ซึ่งเป็นบริษัทประกันของเขาเอง ทำให้เข้าใจว่าโมเดลธุรกิจแบบนี้ยอดเยี่ยมมาก มีอีกหลายบริษัทชั้นนำที่ต้องการโฆษณากับเว็บ Google เพื่อสื่อสารได้กับคนทั่วโลกเพียงแค่ปลายนิ้วคลิก ส่วนหุ้น Amazon ซึ่งเป็นบริษัทขายสินค้าออนไลน์ชื่อดังไปทั่วโลก แต่เนื่องด้วยยังไม่ข้าใจโมเดลธุรกิจมากพอจึงทำให้บัฟเฟตต์พลาดโอกาสการลงทุนครั้งสำคัญไป
4. Precision Castparts Corp (PCC)
เมื่อปี 2016 บัฟเฟตต์ได้เข้าซื้อหุ้น บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินและชิ้นส่วนอุตสาหกรรมการบิน PCC มองว่า เป็นบริษัทที่ดีและดีที่สุดในอุตสาหกรรมนี้ แต่เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบหนักต่อธุรกิจที่เกี่ยวกับการบิน ส่งผลให้ปี 2020 PCC ปรับลดพนักงานลง 40% หรือราว 13,400 ตำแหน่ง ส่วน Berkshire Hathaway ของปู่บัฟเฟตต์เอง มีการตัดขายออกราว 9,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนสิงหาคม 2020 “ผมคิดผิดในการคำนวณค่าเฉลี่ยรายได้ในอนาคต ทำให้การคำนวณราคาที่เหมาะสมเพื่อซื้อธุรกิจนี้ผิดพลาด”
ทุกครั้งที่วอร์เรน บัฟเฟตต์ ผิดพลาด เขาแทบไม่เคยโทษอย่างอื่น นอกจากตัวเขาเอง แถมยังพูดอีกว่า “ในอนาคตผมย่อมมีข้อผิดพลาดได้อีกแน่ ๆ” สิ่งที่น่ารักที่สุดคือการที่เขายอมรับในทุกความผิดพลาดของตัวเอง แล้วเริ่มต้นใหม่ ซึ่งหากนักลงทุนในตำนานแบบเขามีข้อผิดพลาดได้ ใคร ๆ ก็ผิดพลาดได้เหมือนกัน มันคือเรื่องปกติของการลงทุน หวังว่าความผิดพลาดของบัฟเฟตต์ จะเป็นบทเรียนที่ดีให้กับคนที่อ่านบทความนี้อยู่ หากเอาไปปรับใช้ไม่ให้พลาดเหมือนปู่ก็คงจะดีไม่น้อย ทางเรายังมีบทความที่เป็นบทเรียนดี ๆ แบบนี้อีกเยอะ ใครไม่อยากพลาด รับได้ทุกวันแบบฟรี ๆ แค่มีแอป WikiFX โหลดเลยนะ ฟรี!
แนะนำฟีเจอร์ “จัดอันดับโบรกเกอร์” คุณกำลังมองหาโบรกเกอร์ Forex แนะนำอยู่หรือไม่ ถ้าใช้ให้ดาวน์โหลดแอพ WikiFX เพื่อตรวจสอบโบรกเกอร์หรือดูการจัดอันดับ โบรกเกอร์ Forex เพราะแอพ WikiFX ได้ตรวจสอบโบรกเกอร์และคัดสรรมาให้หมดแล้ว ว่าโบรกเกอร์ไหนดีหรือไม่ดี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
สัปดาห์สุดท้ายของปี 2564 ดูเหมือนจะจบลงอย่างเงียบ ๆ สำหรับปีที่ผันผวนแต่ให้ผลกำไรสำหรับนักลงทุน สัปดาห์ที่เต็มไปด้วยวันหยุดทำให้ช่วงเวลาซื้อขายสั้นลงในตลาดนอกสหรัฐ
หุ้นสหรัฐกลับมาทำสถิติสูงสุด แต่ยังมีโอกาสผันผวนอีกครั้งหลังมีการเทขายในสัปดาห์ที่แล้ว ในขณะเดียวกัน ข้อมูลทางเศรษฐกิจ และนี่คือสิ่งที่คุณต้องรู้เพื่อเริ่มต้นสัปดาห์การลงทุนของคุณ
และนี่คือ 5 สิ่งที่คุณต้องรู้เพื่อเริ่มต้นสัปดาห์ลงทุนของคุณ ไวรัสสายพันธุ์ใหม่เข้าคุกคามตลาด
ข้อมูลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อจะเป็นไฮไลต์ของปฏิทินเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงประเมินการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐที่จะเริ่มลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจลง และนี้คือ 4 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องจับตาสัปดาห์นี้
FP Markets
STARTRADER
FOREX.com
Tickmill
HFM
VT Markets
FP Markets
STARTRADER
FOREX.com
Tickmill
HFM
VT Markets
FP Markets
STARTRADER
FOREX.com
Tickmill
HFM
VT Markets
FP Markets
STARTRADER
FOREX.com
Tickmill
HFM
VT Markets