简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ก.ล.ต. ไทยพิจารณาเก็บเหรียญ Bitcoin และคริปโตที่อายัดมาได้ไว้ใน Wallet ของรัฐบาล
อ้างอิงจากรายงานของก.ล.ต.เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมาสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้จัดประชุมร่วมกับ 14 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อปรึกษาหารือการกำหนดแนวทางเกี่ยวกับกระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัลของภาครัฐ (government wallet)
สำหรับเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลที่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายยึดหรืออายัดมาจากการกระทำความผิด โดยมีนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ให้เกียรติเป็นประธานการประชุม และนายเนวินธุ์ ช่อชัยทิพฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเข้าร่วมประชุม นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีมีความก้าวหน้ามาก มีการใช้คริปโทเคอร์เรนซีเป็นสื่อกลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการแทนเงินตราที่ออกโดยภาครัฐ แต่ปัจจุบันกฎหมายบางส่วนโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการยึดหรืออายัดทรัพย์สินจากผู้กระทำความผิด นั้นอาจยังไม่สอดคล้องกับเทคโนโลยีและลักษณะการทำธุรกรรมในปัจจุบัน ทำให้มีช่องว่างในการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่อาศัยคริปโทเคอร์เรนซี่ในการกระทำความผิด เช่น การฟอกเงิน และการซื้อขายยาเสพติด เป็นต้น
ดังนั้นการประชุมในครั้งนี้จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มาหารือกันเกี่ยวกับกระบวนการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล โดยอาจมีการพิจารณาปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย และเพิ่มความคุ้มครองในผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ที่ผ่านมาหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของไทยได้ยึด หรืออายัดสินทรัพย์ดิจิทัลมาจากการกระทำความผิดไว้ตามแนวทางของแต่ละหน่วยงาน ดังนั้น ก.ล.ต.
ในฐานะ หน่วยงานหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล จึงได้เรียนเชิญนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ให้เกียรติเป็นประธานการประชุม และนายเนวินธุ์ ช่อชัยทิพฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเข้าร่วมประชุม พร้อมด้วยผู้บริหารและผู้แทน จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการยึด อายัด เก็บรักษา และการดำเนินการที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าว รวมทั้งเสนอให้มีการจัดทำมาตรฐานกลางเกี่ยวกับกระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัลของภาครัฐ (government wallet) ร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ 14 หน่วยงานที่เข้าประชุมร่วมกับ ก.ล.ต.
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
บทวิเคราะห์บิตคอยน์
บทวิเคราะห์บิตคอยน์
บทวิเคราะห์บิตคอยน์
บิทคอยน์และทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีลักษณะและความเสี่ยงที่แตกต่างกัน โดยบิทคอยน์มีปริมาณจำกัด 21 ล้านเหรียญ ซึ่งสร้างความมั่นใจในการคาดการณ์มูลค่า ขณะที่ทองคำไม่มีปริมาณแน่นอนเนื่องจากเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สามารถค้นพบเพิ่มเติมได้ ทั้งสองมีวิธีการเก็บรักษามูลค่าที่แตกต่างกัน บิทคอยน์ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนที่ปลอดภัย ขณะที่ทองคำเป็นสินทรัพย์จับต้องได้ที่มีความเสี่ยงต่อการขโมย สำหรับความสะดวกในการเคลื่อนย้าย บิทคอยน์สามารถส่งไปทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่ทองคำต้องการการขนส่งทางกายภาพที่ยุ่งยาก ดังนั้นการเลือกลงทุนระหว่างบิทคอยน์และทองคำขึ้นอยู่กับเป้าหมายและความเสี่ยงที่นักลงทุนพร้อมรับ โดยควรพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อสร้างพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสมที่สุดกับตนเอง
FxPro
GO MARKETS
XM
OANDA
Vantage
Pepperstone
FxPro
GO MARKETS
XM
OANDA
Vantage
Pepperstone
FxPro
GO MARKETS
XM
OANDA
Vantage
Pepperstone
FxPro
GO MARKETS
XM
OANDA
Vantage
Pepperstone