ดอลลาร์ขยับลงเล็กน้อย เริ่มเห็นสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นตัว

โดย Gina Lee

Investing.com - ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงในเช้าวันศุกร์ในเอเชีย แต่ยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนเนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจในเชิงบวกของสหรัฐฯการเปิดตัววัคซีน COVID-19 และการเพิ่มขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรทั้งหมดยังคงระงับการปรับตัวลงของสกุลเงินสหรัฐฯอยู่

ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ ขยับลง 0.13% เป็น 92.790 ในเวลา 21:47 น. ET (01:47 น. GMT)

เงินเยน เพิ่มขึ้น 0.05% เป็น 109.33 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2020

ดอลลาร์ออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 0.31% เป็น 0.7602 และคู่ ดอลลาร์นิวซีแลนด์ เพิ่มขึ้น 0.32% เป็น 0.6971 สองสกุลเงินนี้ฟื้นตัวจากการขาดทุนในช่วงต้นสัปดาห์และมีแนวโน้มที่จะยังคงได้รับการสนับสนุนเนื่องจากความสำเร็จของทั้งสองประเทศในการจำกัด ผลกระทบทางเศรษฐกิจจาก COVID-19 ตามที่นักลงทุนบางคนกล่าว

เงินหยวน ลดลง 0.04% มาอยู่ที่ 6.5423

เงินปอนด์ ขยับขึ้น 0.16% เป็น 1.3754 โดยสหราชอาณาจักรจะเปิดเผยตัวเลข ยอดค้าปลีก ในเดือนกุมภาพันธ์ในวันถัดไป

เงินบาทไทยทรงตัวอยู่ที่ 31.15

เงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สู่ระดับ 1.1776 ดอลลาร์ ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 ความเชื่อมั่นของนักลงทุนอ่อนค่าลงเนื่องจากการล็อคดาวน์ใหม่และความล่าช้าในการเปิดตัววัคซีน COVID-19 ทั่วทั้งทวีป

แม้ว่าเยอรมนีจะเผยแพร่ ดัชนีบรรยากาศทางธุรกิจของเยอรมนีจากสถาบัน Ifo ในเดือนมีนาคมซึ่งคาดว่าจะมีกำลังใจในการทำธุรกิจที่ดีขึ้น แต่ก็ไม่น่าจะหยุดการร่วงลงของสกุลเงินยูโรได้ การเปิดตัววัคซีนอย่างช้า ๆ และข้อพิพาทกับสหราชอาณาจักรเกี่ยวกับการส่งออกวัคซีนยังคงเป็นประเด็นสำคัญในตอนนี้

อย่างไรก็ตามมีคำเตือนเกี่ยวกับการไการเพิ่มขึ้นของเงินดอลลาร์ในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นเร็วเกินไป

ด้านสหรัฐอเมริกาจำนวน ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ในสัปดาห์นี้ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งปีที่ 684,000 ครั้ง จากการเรียกร้อง 781,000 ครั้งในสัปดาห์ที่แล้ว จำนวนดังกล่าวยังลดลงจากการเรียกร้อง 730,000 ครั้งในการคาดการณ์ที่จัดทำโดย Investing.com

ข้อมูลเพิ่มเติมรวมถึง การใช้จ่ายส่วนตัว ในเดือนกุมภาพันธ์จะครบกำหนดในวันถัดไป เป็นข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

นอกจากนี้ประธานาธิบดีโจ ไบเดนยังให้คำมั่นที่จะเพิ่มแผนการเปิดตัวการฉีดวัคซีนของสหรัฐฯเป็นสองเท่าหลังจากบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ก่อนหน้านี้คือ 100 ล้านโดสภายใน 42 วัน