รีวิวใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex แต่ละที่ต่างกันยังไง? ที่ไหนมั่นคงกว่า?

คงจะทราบกันดีว่าหน่วยงานกำกับดูแลโบรกเกอร์ Forex นี่มีมากมายกระจายอยู่ทั่วโลก หลายคนคิดว่าโบรกเกอร์มีใบอนุญาตก็ไว้ใจได้เลย ต้องบอกว่าใจเย็นก่อนนะ มีใบอนุญาตก็ใช่ว่าจะตัดสินว่าดีได้เลย แต่ละหน่วยงานมีการกำหนดคุณสมบัติ ขอบเขตการปกป้องคุ้มครอง หรือชดเชยความเสียหายที่แตกต่างกันไป แต่ที่ไหนน่าไว้ใจมาก ที่ไหนน่าไว้ใจน้อย WikiFX ขอยกมาให้ดูกันสัก 5 หน่วยงาน

1. FCA UK (Financial Conduct Authority)

FCA เป็นหน่วยงานของสหราชอาณาจักร เป็นองค์กรกำกับดูแลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ทำหน้าที่ในการกำกับดูแล บริษัท, โบรกเกอร์ (Forex Broker) เพื่อป้องกันการทุจริตทางการเงิน การหลอกลวงและการฉ้อฉลอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อผู้ค้าปลีกและผู้ค้ารายย่อย

ข้อระเบียบเบื้องต้นของ FCA

- โบรกเกอร์ที่ควบคุมโดย FCA ต้องมีเงินทุนหมุนเวียน อย่างน้อย 1 ล้านปอนด์ (43 ล้านบาท)

- โบรกเกอร์ต้องเก็บเงินลูกค้า ไว้ในบัญชีที่แยกบัญชีออกจากบัญชีของบริษัท และไม่ใช้เงินของผู้ค้าเพื่อวัตถุประสงค์อื่น

- โบรกเกอร์ต้องจัดทำรายงานการตรวจสอบประจำปี และงบการเงิน เพื่อยืนยันว่าข้อเท็จจริงทั้งหมดที่ให้ไว้กับ FCA

- มีการรับประกัน เงินชดเชยสูงถึง 50,000 ปอนด์ (2 ล้านบาท) สำหรับลูกค้าในกรณีที่โบรกเกอร์ล้มละลาย

FCA เป็นหนึ่งในหน่วยงาน ที่มีความเข้มงวดมาก ในการตรวจสอบ, ป้องกันการทุจริตของบริษัท โบรกเกอร์ที่จดทะเบียนกับ FCA จึง มีความมั่นคงและสภาพคล่องที่สูง จึงเป็นใบอนุญาตที่ไว้ใจได้มากที่สุดเลยก็ว่าได้ โบรกเกอร์ดัง ๆ ที่เกือบทุกที่ล้วนมีใบอนุญาตจาก FCA กันทั้งนั้น

2. ASIC (Australian Securities and Investments Commission)

ASIC เป็นหน่วยงานของ ออสเตรเลีย เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่เก่าแก่ที่สุดในตลาด เริ่มต้นในปี 1989 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และการลงทุน ทำหน้าที่ต่อต้านการทุจริตทางการเงิน และการทุจริตในตลาดทุน

ข้อระเบียบเบื้องต้นของ ASIC

- โบรกเกอร์ Forex ที่จดทะเบียนกับ ASIC ต้องมีเงินทุนหมุนเวียน อย่างน้อย 1 ล้านเหรียญ (31 ล้านบาท)

- โบรกเกอร์ Forex ที่จดทะเบียนกับ ASIC ต้องแยกเก็บเงินของลูกค้าไว้ในธนาคารชั้นนำของประเทศออสเตรเลีย

- ASIC ไม่ได้จำกัด Leverage และรูปแบบการเทรดของ โบรกเกอร์

- ASIC ไม่ได้จำกัดการเทรดในรูปแบบ Hedging, Scalping โบรกเกอร์ทั้งหมดที่จดทะเบียน ASIC จำเป็นต้องมีแพลตฟอร์มที่รวดเร็ว, มีประสิทธิภาพสำหรับการซื้อขาย และการซื้อขายควรเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่มีการแทรกแซง

3. CySEC (Cyprus Securities and Exchange Commission)

CySEC เป็นหน่วยงานของประเทศไซปรัส เข้ามาในตลาด ตั้งแต่ต้นปี 2001 (พ.ศ. 2544) โดยประเทศไซปรัสนั้น ได้เข้าร่วมสหภาพยุโรปในปี 2004 (พ.ศ. 2547) และต่อมารัฐธรรมนูญทั้งหมดรวมถึงกรอบการกำกับดูแลของ CySEC ได้รับการปรับปรุงใหม่ ตามหลักเกณฑ์ของสหภาพยุโรป และไปตามมาตรฐาน EU และ MiFID เพื่อการควบคุมที่เฉพาะเจาะจงเพื่อป้องกันการทุจริตทางการเงิน

ข้อระเบียบเบื้องต้นของ CySEC

- โบรกเกอร์ที่จดทะเบียนกับ CySEC ต้องมีเงินทุนหมุนเวียน อย่างน้อย 750,000 ยูโร (27 ล้านบาท)และต้องส่งงบการเงินประจำปีให้แก่ CySEC

- มีการรับประกันชดเชยเงินสูงสุด 20,000 ยูโร (730,000 บาท) ให้ลูกค้าในกรณีที่โบรกเกอร์ล้มละลาย

จะเห็นได้ว่าขนาดหน่วยงานที่ขึ้นชื่อว่าน่าเชื่อถือที่สุดในโลก ยังมีการกำหนดคุณสมบัติที่ต่างกัน ในที่นี้จะเห็นได้ว่า FCA กำหนดเงินทุนหมุนเวียน อย่างน้อย 1 ล้านเหรียญ ซึ่งสูงที่สุดในทุกหน่วยงาน นั่นหมายความว่าการที่โบรกเกอร์จะได้ใบอนุญาตจาก FCA นั้น ถือเป็นงานที่หินที่สุด

ต่อไปเราจะพาทุกคนมารู้จักกับหน่วยงานที่ไม่ค่อยจะคุ้นหูกันบ้าง โบรกเกอร์ที่ถือใบอนุญาตจากหน่วยงานต่อไปนี้ใบเดียว อาจจะต้องพิจารณากันให้ดีหน่อย เพราะจากสถิติของ WikiFX พบพวกเขาโดนร้องเรียนปัญหาต่าง ๆ กันค่อนข้างเยอะ

4. CBR (Central Bank of Russia)

CBR เป็นองค์กรณ์ที่ไม่แสวงหากำไร ที่คอยกำกับดูแลตลาดการซื้อขาย ล่วงหน้าในสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นตลาดอนุพันธ์ ตลาด Forex (Foreign Exchange) และทำหน้าที่ให้การรับรองกำกับควบคุมดูแล และปกป้องนักลงทุน ในตลาดเหล่านี้

ความรับผิดชอบ

- บัญญัติกฎ สร้างความน่าเชื่อถือให้กับตลาด Forex

- คุ้มครองนักลงทุน

- กำกับดูแลตลาด เรื่องกฎความรับผิดชอบในการเฝ้าระวังเรื่องการซื้อขายธุรกรรม

ไม่มีรายงานแน่ชัดว่าใบอนุญาตของ CBR กำหนดคุณสมบัติไว้อย่างไร แต่จากข้อมูลบนแอป WikiFX พบว่าหน่วยงานดังกล่าว ควบคุมดูแลอยู่ 4 โบรกเกอร์เท่านั้น โดย 2 โบรกเกอร์มีแนวโน้มว่าจะเป็นใบอนุญาตปลอม ส่วนอีก 2 โบรกเกอร์ก็ได้รับการร้องเรียนจำนวนมาก จึงไม่อาจไว้ใจได้เต็มที่ นักลงทุนควรพิจารณาให้ดี

5. SECC (Securities and Exchange Commission of Cambodia)

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของกัมพูชา (SECC) ถูกก่อตั้งขึ้นภายใต้กฎหมายว่าด้วยการออกและการซื้อขายหลักทรัพย์ มีหน้าที่ในการกำกับให้ธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ในประเทศกัมพูชามีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม

ภารกิจของ SECC

- พัฒนาและรักษาความเชื่อมั่นของนักลงทุนสาธารณะในราชอาณาจักรกัมพูชาโดยการปกป้องสิทธิทางกฎหมายของพวกเขา

- ส่งเสริมความหลากหลายของเครื่องมือออมทรัพย์โดยการซื้อหลักทรัพย์และตราสารทางการเงินอื่น

- ส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศและการมีส่วนร่วมในตลาดหลักทรัพย์ในราชอาณาจักรกัมพูชา

ไม่มีรายงานแน่ชัดเกี่ยวกับคุณสมบัติของโบรกเกอร์ Forex ที่ได้ใบอนุญาตจาก SECC แต่ข้อมูลบนแอป WikiFX พบว่า มีโบรกเกอร์ภายใต้การกำกับดูแลของ SECC มากถึง 10 โบรกเกอร์ แต่ 9 ใน 10 นั้นถูกรายงานว่าได้มีการทำธุรกิจที่เกินขอบเขตของการกำกับดูแล และโบรกเกอร์ทั้ง 10 ราย ล้วนได้คะแนนจาก WikiFX ค่อนข้างต่ำ และได้ไม่ถึง 5/10 คะแนนสักราย นักลงทุนควรพิจารณาให้ดี

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของหน่วยงานกำกับดูแล Forex ยังมีอีกมากมายทั่วมุมโลก ที่มีการกำหนดคุณสมบัติ มีการคุ้มครองที่ต่างกัน คุณสามารถไปดูข้อมูลของหน่วยงานเหล่านี้ พร้อมดูด้วยว่ามีแต่ละโบรกเกอร์ถือใบอนุญาตจากหน่วยงานใด ไปสำรวจได้ง่าย ๆ บนแอป WikiFX เลย โหลดฟรี!

อย่าตกเป็นเหยื่อโบรกเกอร์ Forex เถื่อน! เพราะโบรกเกอร์ Forex เถื่อนชอบโกงเงินนักลงทุน คุณต้องดาวน์โหลด WikiFXเพื่อตรวจสอบว่าโบรกเกอร์ Forex ใดควรเทรดด้วย ไม่งั้นจะเสียใจทีหลัง ดาวน์โหลดฟรี!