简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:วันหยุดยาวปีนี้เชื่อว่าหลายคนคงออกไปไหนไม่ได้ WikiFX เลยขอมาแนะนำหนังดี ๆ ให้นักลงทุนทุกคนนอนดูรับแรงบันดาลใจกันถึงที่บ้านเลยทีเดียว กับภาพยนตร์ “Margin Call”
Margin Call หรือชื่อไทย “เงินเดือด” (2011) ในช่วงปี 2008 ที่ตลาดหลักทรัพย์เริ่มส่อแววปั่นป่วน สถาบันการเงินแห่งหนึ่งในวอลล์สตรีทได้ลดจำนวนพนักงานลงเกือบครึ่ง และหนึ่งในนั้นคือ อีริค เดล หัวหน้าแผนกบริหารความเสี่ยง อีริคได้มอบไฟล์งานสำคัญที่ทำค้างอยู่แก่ ปีเตอร์ ซัลลิแวน ลูกน้องในทีมแล้วบอกว่า ‘ระวังให้ดี’ ปีเตอร์จึงเริ่มศึกษาและทำงานต่อจนเสร็จ และได้พบกับสิ่งที่น่าตกใจ นั่นคือสถานะความเสี่ยงที่แท้จริงของบริษัทซึ่งเกินลิมิตที่จะรับได้ (เพราะความซับซ้อนของหลักทรัพย์ จึงทำให้ก่อนหน้านี้ ความเสี่ยงนี้ได้รอดพ้นเกณฑ์ที่ตั้งไว้และไม่ถูกแจ้งเตือน) ซึ่งหากราคาของหลักทรัพย์กลุ่มนี้ลดไปเพียง 25%
ผู้บริหารทั้งหมดถูกเรียกประชุมฉุกเฉินกลางดึก วิล อีเมอร์สัน และแซม โรเจอร์ส แผนกค้าหลักทรัพย์ ซาร่า โรเบิร์ตสัน แผนกควบคุมความเสี่ยง และจาเร็ด โคเฮ็น หัวหน้ากลุ่มธุรกิจ ต่างต้องวางหมากอย่างแนบเนียน ว่าจะรับมือกับสถานการณ์วิกฤตนี้อย่างไร โดยที่พวกเขาก็ไม่รู้ถึงชะตากรรมของตัวเองเช่นกัน ในขณะเดียวกัน CEO จอห์น ทัลด์ ได้ตัดสินใจให้แซม โรเจอร์ส รับผิดชอบการขายหลักทรัพย์นี้เกือบทั้งหมดในเช้าวันรุ่งขึ้น แซมต้องต่อสู้ระหว่างความกดดันจากทัลด์และความรู้สึกผิดชอบชั่วดี เขาจะตัดสินใจทำตามแผนของทัลด์หรือไม่ และจะทำได้อย่างไร (ไปติดตามกันนะ เดี๋ยวหาว่าสปอยน์)
ภาพยนตร์เรื่อง Margin Call สะท้อนให้เห็นถึงสภาพการล่มสลายทางเศรษฐกิจได้ดี ว่าเมื่อเวลานั้นมาถึงจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง รวมถึงแสดงวิธีการแก้ปัญหาระหว่างสภาวะเศรษฐกิจเป็นพิษ จากการกระทำของตัวละคร อย่างเช่น การเรียกประชุมผู้บริหารตำแหน่งใหญ่ CEO กันแบบทั้งวันทั้งคืน แน่นอน ว่าถ้าเป็นผู้ลงทุนรายย่อย ๆ อาจจะไม่สามารถสัมผัสกับความเครียดในการแก้ปัญหาได้อย่างเด่นชัด
อย่างไรก็ตาม หนังเผยให้เห็นถึงสัจธรรมของการทำธุรกิจ ว่าสุดท้ายแล้วเป้าหมายสูงสุดของการทำธุรกิจก็คือกำไร ที่พร้อมจะทำทุกอย่างโดยไม่คำนึงถึงจรรยาบรรณหรือธรรมาภิบาล หากว่าการกระทำนั้นจะทำให้ตัวเองอยู่รอด ซึ่งหากมองในมุมของผลประโยชน์ขององค์กร ผลประโยชน์ส่วนตัว และผลกระทบที่อาจจะตามมาหากไม่ทำ ก็พอจะเข้าใจและยอมรับได้ แต่นั่นควรจะเป็นวิธีการที่ถูกที่ควรหาและตรงไปตรงมา ไม่ใช่วิธีการอันโหดเหี้ยมโดยการโยนหายนะที่ตัวเองสร้างขึ้นไปให้คนอื่นรับเคราะห์
หนังเรื่องนี้สอนให้เรารู้ ว่าการลงทุนใด ๆ ก็ตาม มีความเสี่ยงทั้งสิ้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูล ประเมินความเสี่ยง ภาวะทางเศรษฐกิจในขณะนั้นให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน เพราะหากลงทุนไปแล้ว โครงสร้างทางเศรษฐกิจเกิดพังพินาศ เท่ากับว่าเงินที่มีอยู่ต้องสูญเปล่าไป อย่างไม่มีวันจะเอากลับมาใหม่ได้เลย ยิ่งในโลกของ Forex คุณก็คงรู้กันดีว่าโครงสร้างเศรษฐกิจน่ะมีผลแค่ไหน ยังไงก็อย่าลืมเอาข้อคิดจากหนังเรื่องนี้ไปปรับใช้กับการลงทุนของคุณนะ รับเรื่องราวดี ๆ เกี่ยวกับการเงิน การลงทุนแบบนี้ได้ทุกวัน แค่มีแอป WikiFX โหลดฟรี แล้วมาอ่านกันใหม่นะ Happy Holiday!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
ตลาดยังคงตื่นเต้นกับเศรษฐกิจ เนื่องจากเจอโรม พาวเวลประธานธนาคารกลางสหรัฐให้คำมั่นว่าตลาดคอขวดจะยังคงเปิดกว้าง และนี่คือ 3 สิ่งที่ส่งผลกระทบต่อตลาดที่นักลงทุนควรรู้
นี่คือสิ่งที่นักลงทุนควรรู้ในตลาดการเงิน
สรุป 10 ความยิ่งใหญ่ใน "ตลาดการเงิน" ปี 2020 ซึ่งเป็นปีแห่งเริ่มทศวรรษใหม่ที่แตกต่างที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตนักลงทุน ผลจากวิกฤติโควิด-19 รวมถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะสงครามการค้าสหรัฐกับจีน
FOREX.com
Exness
AvaTrade
Vantage
XM
STARTRADER
FOREX.com
Exness
AvaTrade
Vantage
XM
STARTRADER
FOREX.com
Exness
AvaTrade
Vantage
XM
STARTRADER
FOREX.com
Exness
AvaTrade
Vantage
XM
STARTRADER