เงินเฟ้อจะกระทบต่อราคา ‘ทองคำและบิทคอยน์’ มากแค่ไหน ?

ช่วงนี้สื่อหลายสำนักต่างออกมาคาดการณ์ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอาจชะลอตัวลง ภาวะเงินเฟ้อ และอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งแน่นอนว่ามันจะมีผลไปทั่วโลกแน่นอน โดยเฉพาะในโลกการลงทุนสุดอมตะอย่างทองคำ และการลงทุนของยุคใหม่อย่างบิทคอยน์ แต่ว่ามันจะมีผลต่อกันยังไง ติดตามได้ในบทความนี้

ดวิดโรช ประธานบริษัทกลยุทธ์อิสระด้านการลงทุน ได้ออกมาพูดกับสื่อว่า “อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐซึ่งอยู่ที่ 2.6% ในเดือนมีนาคมจากปีก่อนหน้านั้น อาจสูงขึ้นมาก” “มุมมองของผมเองคือเราจะเห็นอัตราเงินเฟ้อที่อาจจะ 3 หรือ 4% ภายในกลางปีหน้าและนั่นไม่สอดคล้องอย่างสิ้นเชิงกับผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐอยู่ที่ 1.6%”

เหตุผลที่ราคาจะสูงขึ้นและมีสองอย่าง จริง ๆ คือเรื่องของโควิด-19 เนื่องจากผู้บริโภคใช้จ่ายเงินออมส่วนเกินที่สะสมไว้ และนโยบายต่าง ๆ ของรัฐ สหรัฐฯกำลังพิมพ์แบงก์ออกมากระตุ้นเศรษฐกิจอีกมโหฬาร แน่นอนว่าเงินจะมีประสิทธิภาพน้อยลงและประสิทธิภาพน้อยลงหมายถึงอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น”

ประกอบกับสถานการณ์ “ขาดแคลนชิพ” ในขณะนี้อาจส่งผลเรื่องเงินเฟ้อด้วย ความต้องการที่พุ่งขึ้นประกอบกับภาวะขาดแคลนชิพนำไปสู่สถานการณ์ ที่ยอดสั่งซื้อสินค้าทุกประเภทตั้งแต่รถยนต์ไปจนถึงทีวีและคอมพิวเตอร์แบบทัชสกรีน ปรับตัวขึ้นเป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน ทั้งนี้ในปี 2564 ภาวะขาดแคลนชิพจะส่งผลให้มีการเรียกเก็บภาษีที่เพิ่มขึ้นตามเงินเฟ้อ เมื่อเงินเฟ้อในสหรัฐมีโอกาสพุ่งสูงขึ้น แล้วมันจะมีผลอะไรกับทองคำ และบิทคอยน์？

เงินเฟ้อกับบิทคอยน์

บิทคอยน์เป็นสกุลเงินที่ไม่มีศูนย์กลาง (decentralized) ไม่ได้ถูกพิมพ์ขึ้นโดยธนาคาร หรือถือครองโดยรัฐบาลไหน ดังนั้นอัตราเงินเฟ้อ นโยบายการเงิน การเมืองหรือเศรษฐกิจในประเทศใดประเทศหนึ่งจึงไม่สามารถกระทบราคาของบิทคอยน์

ราคาบิทคอยน์ขึ้นอยู่กับมูลค่าที่ตลาดคาดหวัง ถ้ามีคนสนใจจะซื้อบิทคอยน์มากขึ้น ราคาก็จะขึ้น ถ้ามีคนต้องการขายมากขึ้น ราคาก็จะลง บิทคอยน์มีคุณสมบัติคล้ายทอง แต่แทนที่จะมีรัฐบาลหรือธนาคารควบคุม บิทคอยน์ขับเคลื่อนโดยกลุ่มนักพัฒนาระบบของเทคโนโลยี และมีจำนวนเหรียญจำกัดที่ 21 ล้านเหรียญ BTC หลักการพื้นฐานของบิตคอยน์คือ ราคาควรจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน ซึ่งคล้ายกันกับหลักการของทองคำและการจัดเก็บมูลค่าที่หายากอื่น ๆ (แต่ก็อาจจะไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป ยกตัวอย่างเช่น ในช่วงที่โควิดเริ่มแพร่ระบาดนั้น มูลค่าของบิตคอยน์ลดลงอย่างรวดเร็วพร้อม ๆ กับตลาดหุ้น)

เงินเฟ้อกับทองคำ

ต้องบอกว่าเงินเฟ้อสหรัฐ ส่งผลโดยตรงในระยะยาวกับทองคำ ราคาทองคำมีสัดส่วนความสัมพันธ์แบบ 1:1 กับเงินเฟ้อของสหรัฐ โดยหากปัจจัยอื่นคงที่ ราคาทองคำจะเพิ่มขึ้นเมื่ออัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น และในยามที่อัตราเงินเฟ้อต่ำ ราคาทองคำก็มีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงด้วยเช่นเดียวกัน กล่าวคือหากเงินเฟ้อสหรัฐขยับขึ้น 1% ราคาทองคำจะขยับตามขึ้นไป 1% ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังจะมีความต้องการถือครองทองคำมากขึ้นในช่วงที่มีภาวะสงครามเกิดขึ้น เพราะทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราเงินเฟ้อที่มีประสิทธิภาพ โดยเราจะสังเกตทิศทางอัตราเงินเฟ้อได้จากทิศทางราคาพลังงาน (น้ำมัน) และราคาอาหารต่าง ๆ เพราะเป็นปัจจัยที่มีผลต่อภาวะเงินเฟ้อโดยตรง

เมื่อเงินเฟ้อสหรัฐมีผลต่อราคาทองคำขนาดนี้ เทรดเดอร์จึงต้องติดตามข่าวสารเหล่านี้ให้ดี โดยข่าวที่จะกระทบต่อตลาดทั้งหมดจะถูกรวบรวมไว้ใน ‘ปฏิทินข่าว’ ที่ช่วยให้คุณสามารถประเมินสภาวะทางเศรษฐกิจ และผลกระทบต่อการลงทุนของคุณ ดาวน์โหลดแอป WikiFX เพื่อรับปฏิทินข่าวนี้ พร้อมกับบทความดี ๆ เกี่ยวกับ Forex ที่มีมาทุกวัน โหลดฟรีแล้ววันนี้ โหลดเลย!

เลือกโบรกเกอร์มันยากไม่รู้จะเอาอะไรดี ลองมาดูการจัดอันดับโบรกเกอร์ Forex จาก WikiFX ไหม เราได้จัดอันดับโบรกเกอร์ดีและไม่ดี ให้คุณได้เลือกโบรกง่ายขึ้น ถ้าโบรกเกอร์คุณติดอันดับ 50 ขึ้นไปถือว่าสามารถสบายใจได้เลยว่าโบรกเกอร์ของคุณนั้นมาตรฐานดี ดาวน์โหลดแอพ WikiFX เลย！