3 ปัจจัยที่ต้องจับตา: ผลประกอบการ, ยอดขายบ้าน, ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค

โดย Dhirendra Tripathi

Investing.com - ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นเมื่อในวันจันทร์ หลังจากที่สกุลเงินดิจิตอลร่วงลงในช่วงสุดสัปดาห์เนื่องจากกลุ่มเทคโนโลยียังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและภาคธุรกิจที่กลับมาดำเนินต่อไป

การเดิมพันในตลาดหุ้นขาขึ้นซึ่งเชื่อมโยงกับความคืบหน้าของการเปิดเศรษฐกิจใหม่อีกครั้ง ได้รับแรงหนุนจากความคืบหน้าในการเปิดให้บริการอีกครั้งและสัญญาณที่ดีว่า โครงการฉีดวัคซีนได้ช่วยชะลอการแพร่ระบาดของผู้ป่วยโควิดรายใหม่ นครนิวยอร์กและลอสแองเจลิสประกาศว่า เด็ก ๆ ทุกคนจะได้กลับไปเรียนในห้องเรียนตามเดิม ในเดือนกันยายน

ราคาน้ำมันหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน แม้ว่าข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านจะใกล้เข้ามาแล้วก็ตาม Goldman Sachs (NYSE: GS) คาดการณ์ว่าราคา สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ จะแตะระดับ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลภายในไตรมาสที่สี่

ความต้องการชิปช่วยผลักดันหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีให้สูงขึ้น หลังจากติดลบมานานติดต่อกันห้าสัปดาห์

ต่อไปนี้ คือ สามปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดในวันนี้:

1. ผลประกอบการอีกระลอกหนึ่ง

AutoZone Inc (NYSE: AZO) คาดว่าจะรายงานกำไรต่อหุ้นที่ 20.02 ดอลลาร์จากรายรับ 3.25 พันล้านดอลลาร์ ตามคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ Investing .com บริษัท Nordstrom (NYSE: JWN) คาดว่าจะขาดทุน 58 เซนต์ต่อหุ้นจากรายรับ 2.89 พันล้านดอลลาร์ และ Toll Brothers (NYSE: TOL) คาดว่าจะรายงานกำไรต่อหุ้น 79 เซนต์จากรายรับ 1.77 พันล้านดอลลาร์

2. ข้อมูลด้านอสังหาฯ

แม้ราคาอสังหาริมทรัพย์จะสูงขึ้น แต่ยอดขายบ้านก็ยังคงแข็งแกร่ง โดยวันนี้เวลา 10.00 น. ET (1400 GMT) เราจะได้ทราบข้อมูล ยอดขายบ้านใหม่ ในสหรัฐอเมริกาประจำเดือนเมษายน นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขจากลดลง ลดลง 50,000 เหลือ 970,000 หรือเกือบ 5% จากยอดขายบ้านใหม่ 1,021,000 หลังในเดือนก่อนหน้า

3. ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค

ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในสหรัฐฯอาจลดลงเล็กน้อยในเดือนพฤษภาคม โดยดัชนี ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ของ Conference Board มีแนวโน้มที่จะลดลงเหลือ 119.4 จาก 121.7 ในเดือนเมษายน โดยจะประกาศในเวลา 10.00 น. ET