โรงงานจีนเติบโตเพิ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคม กดดันเงินเฟ้อ

ผลสำรวจธุรกิจระบุว่า กิจกรรมโรงงานของจีนขยายตัวในอัตราที่เร็วที่สุดในปีนี้ในเดือนพฤษภาคม เนื่องจากอุปสงค์ในประเทศและการส่งออกเพิ่มขึ้น แม้ว่าราคาวัตถุดิบจะพุ่งสูงและห่วงโซ่อุปทานจะทำให้การผลิตของบริษัทบางแห่งหยุดชะงัก

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของสถาบัน (Caixin PMI) เพิ่มขึ้นเป็น 52.0 ในเดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม และเพิ่มขึ้นจาก 51.9 จุดในเดือนเมษายน

นักวิเคราะห์ของ Reuters คาดว่า ดัชนีจะอยู่ที่ 51.9 จุด โดยตัวเลข 50 เป็นจุดพื้นฐานที่บ่งชี้ระหว่างการขยายตัวและการหดตัวในแต่ละเดือน

ยอดสั่งซื้อใหม่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในปีนี้ และยอดสั่งซื้อเพื่อการส่งออกสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน แต่แม้ว่าตัวเลขผลผลิตจะแข็งแกร่ง ก็ยังถือว่าต่ำกว่าเดือนก่อนหน้าเล็กน้อย

“ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ เนื่องจากบริษัทบางแห่งเริ่มกักตุนสินค้า ในขณะที่บางแห่งประสบปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบ ห่วงโซ่อุปทานก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน” หวัง เซ่อ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ Caixin Insight Group กล่าวในรายงานที่เผยแพร่ควบคู่กับผลสำรวจ

ดัชนีย่อยสำหรับต้นทุนการผลิตขยายตัวอย่างรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2016

บรรดาผู้ผลิตได้ส่งผ่านแรงกดดันไปยังกลุ่มลูกค้า ด้วยการเพิ่มราคาผลผลิตอย่างรวดเร็วที่สุดในรอบทศวรรษ ค่าธรรมเนียมสำหรับสินค้าส่งออกก็เพิ่มขึ้นในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบสามปีเช่นกัน

ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ถ่านหิน เหล็กกล้า แร่เหล็ก และทองแดงพุ่งสูงขึ้นในปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากการยกเลิกมาตรการล็อคดาวน์ในหลายประเทศและสภาพคล่องทั่วโลกที่เพียงพอ

ผู้กำหนดนโยบายของจีนแสดงความกังวลซ้ำแล้วซ้ำเล่าเกี่ยวกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา และเรียกร้องให้มีการควบคุมอุปสงค์และอุปทานแบบเข้มงวดยิ่งขึ้น รวมถึงปราบปราม “ธุรกรรมการเก็งกำไรที่เป็นภัยคุกคาม” คำเตือนดังกล่าวได้กระตุ้นให้ราคาโลหะอ่อนตัวลง แต่นักวิเคราะห์ไม่แน่ใจว่า การปรับฐานดังกล่าวจะดำเนินต่อไปอีกนานแค่ไหน เนื่องจากความต้องการทั่วโลกยังมีแนวโน้มที่ดีขึ้น

บริษัทต่าง ๆ ยังคงมีการจ้างงาน แต่เป็นไปในอัตราที่ช้าลง โดยบางองค์กรกล่าวว่า พวกเขากำลังพยายามลดต้นทุน

กำไรของบริษัทอุตสาหกรรมในจีนเติบโตช้าลงในเดือนเมษายน จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้นและผลการดำเนินงานที่อ่อนแอลงในภาคสินค้าอุปโภคบริโภคจำกัดความสามารถในการทำกำไรจากการผลิต

เศรษฐกิจของจีนเติบโตเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสแรก เนื่องจากฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากการระบาดของโควิด แม้นักวิเคราะห์จะคาดว่า การขยายตัวอย่างรวดเร็วจะอยู่ในลดลงมาอยู่ในระดับปานกลางช่วงปลายปีนี้

เจ้าหน้าที่เตือนว่า รากฐานสำหรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังไม่มั่นคง ท่ามกลางปัญหาต่าง ๆ ที่รุมเร้า เช่น ต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น