ปีหน้าความต้องการน้ำมันจ่อ‘เกินระดับก่อนโควิด’

สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (ไออีเอ) รายงานสถานการณ์ตลาดน้ำมันรายเดือน พบว่า ความต้องการค่อยๆ ฟื้นตัวเนื่องจากโลกฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้มากขึ้น กิจกรรมทางเศรษฐกิจหลายอย่างกลับมาเป็นปกติแล้วในหลายประเทศ “ภายในสิ้นปี 2565 ความต้องการจะเกินกว่าระดับก่อนโควิด”

ในปี 2563 ความต้องการน้ำมันลดลงเป็นประวัติการณ์ 8.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากโควิด-19 ระบาดไปทั่วโลกหลายประเทศต้องชัตดาวน์เศรษฐกิจ ไออีเอคาดว่า ความต้องการน้ำมันจะฟื้นตัวขึ้น 5.4 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีนี้ และเพิ่มขึ้นอีก 3.1 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2565

อย่างไรก็ตาม ไออีเอซึ่งมีฐานปฏิบัติการในกรุงปารีสเตือนว่า การฟื้นตัวไม่เท่ากันทั้งในแง่ภูมิภาคภาคส่วนธุรกิจและสินค้า คาดว่า ความต้องการในประเทศร่ำรวยฟื้นตัวก่อนเนื่องจากฉีดวัคซีนได้ก่อน ขณะที่บางภาคส่วน เช่น การบิน ยังฟื้นช้าเพราะหลายที่ยังคงระเบียบคุมเดินทางไว้ อีกทั้งประชาชนยังทำงานที่บ้านมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน

“อุตสาหกรรมการบินโลกจะไม่กลับมาสู่ภาวะปกติจนกว่าประเทศส่วนใหญ่ได้ภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นปลายปี 2565” ไออีเอระบุ

ส่วนการติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นในประเทศกำลังพัฒนาหลายประเทศล่าสุด ควรเป็นเครื่องเตือนใจว่าการระบาดยังไม่จบ ทำให้ความต้องการน้ำมันโลกลดลงในเดือน พ.ค. ยังไม่นับการระบาดใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศอย่างอินเดีย ที่ไม่น่าจะมีวัคซีนได้เพียงพอกับประชาชนจนกว่าจะถึงปลายปีนี้ ขณะที่หลายประเทศแอฟริกายังสั่งวัคซีนได้ไม่พอ

ไออีเอคาดด้วยว่า ความต้องการน้ำมันจะเพิ่มขึ้นภายในไม่กี่เดือนนี้ “การตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นดูแล้วไม่น่าจะมีปัญหา” คาดว่าประเทศนอกกลุ่มโอเปคพลัสจะเพิ่มการผลิต 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีหน้า เกินระดับปี 2562 ขณะเดียวกันสมาชิกโอเปคพลัสมีกำลังการผลิตสำรองอีก 6.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน แม้แต่หลังเพิ่มเพดานการผลิตอีก 2 ล้านบาร์เรลต่อวันช่วง พ.ค.-ก.ค.แล้วก็ตาม

“แม้ผู้ผลิตโอเปคพลัสเติมเต็มความต้องการที่เพิ่มขึ้น ผลผลิตของกลุ่มยังคงต่ำกว่าระดับเฉลี่ยปี 2562 กว่า 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน”