简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ตำรวจญี่ปุ่นได้เข้าจับกุมชาย 4 คน ผู้อยู่เบื้องหลัง ‘OZ Project’ หลังหลอกนักลงทุนทั่วประเทศญี่ปุ่นยาวนานกว่า 4 ปี
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ตำรวจญี่ปุ่นได้เข้าจับกุมชาย 4 คน ผู้อยู่เบื้องหลัง ‘OZ Project’ หลังหลอกนักลงทุนทั่วประเทศญี่ปุ่นยาวนานกว่า 4 ปี เบื้องต้นโครงการดังกล่าวนั้นได้หลอกลวงนักลงทุนไปกว่า 55 ล้านดอลลาร์ จากนักลงทุนประมาณ 20,000 ราย โดยพวกเขาใช้คำชักชวน หลอกลวงนักลงทุนที่เป็นเหยื่อว่า จะให้ผลตอบแทนคืน 2.5 เท่า ภายใน 4 เดือน
ทั้งนี้รูปแบบการหาเหยื่อของพวกเขาทั้ง 4 คน มีจุดเริ่มต้นมาจากการเดินสายสัมมนาไปทั่วประเทศญี่ปุ่น พร้อมบอกกับนักลงทุนว่า เงินทั้งหมดจะถูกลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล โดยใช้ระบบการซื้อขายแบบ AI อัตโนมัติ ทั้งที่จริงแล้ว ระบบการซื้อขายแบบนี้ไม่มีอยู่จริงในโลก
ต่อมาได้มีผู้เสียหายในนาโกย่ายื่นฟ้องต่อเจ้าหน้าที่ประจำจังหวัดแล้วในเดือนกันยายน ปี 2019 ก่อนที่ผู้ต้องสงสัยทั้งหมด 4 ราย ได้แก่นาย โชจิ อิชิดะ, ยูกิฮิโระ ยามาชิตะ, ทาคุยะ ฮาชิยาดะ และมาซามิจิ โทชิมะ จะถูกจับกุมเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา
นี่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งกลโกงที่ใช้เป็นอุทาหรณ์ได้อย่างดีเยี่ยม อย่างไรก็ตามโลกของคริปโตกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และที่สำคัญราคาของพวกมันยังมีแนวโน้มที่จะพุ่งสูงขึ้นในอนาคต จึงไม่แปลกที่ทำให้อาชญากรต่างๆ เริ่มมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น พร้อมคอยแสวงหากำไรมหาศาลจากเหยื่อที่ขาดความรู้เท่าทัน
โดยพวกมันมักจะแฝงมาในร่างของผู้เชี่ยวชาญ แอปหาคู่ นักพัฒนา เจ้าของกระดานเทรด และอื่นๆ ซึ่งกลโกงต่างๆ นั้นมีอยู่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การปั่นราคาแล้วเทขาย การแชร์ลูกโซ่ การชักชวนจากแอปหาคู่ และที่คนไทยโดนกันบ่อยที่สุดคงหนีไม่พ้น การ ‘Sim Swap’
‘Sim Swap’ คือ การที่แฮ็กเกอร์นั้นจะทำการสุ่มหลอกเอาข้อมูลของเหยื่อด้วยวิธีการ Phishing (การคลิกลิงค์ เพื่อกรอกข้อมูลส่วนตัว หรือ ยืนยันสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูล ไม่ว่าจะเป็น เบอร์โทรศัพท์และอื่นๆ) ก่อนนำข้อมูลที่เพียงพอไปขอทำ ‘Sim Card’ ใหม่ และนั่นเป็นตัวแปรสำคัญในการเข้าถึงข้อมูลภายในของเหยื่อไม่ว่าจะเป็นข้อมูลของรหัสบัตร หรือการทำ OTP ของเว็บเทรดต่าง ๆ ที่ทางเหยื่อได้ลงทะเบียนไว้กับเว็บเทรด เพื่อทำการขโมย หรือโอนสกุลเงินดิจิทัล ไปยังบัญชีของตนนั่นเอง
ดังนั้นหากคุณเจอกลโกงในลักษณะนี้ หรืออื่นๆ ที่กล่าวมา อย่าพึ่งหลงเชื่อ ให้นำชื่อกระดานเทรด หรือเหรียญ ที่เขาแอบอ้างนั้น มาตรวจสอบในแอป ‘Wikibit’ ก่อน เพื่อสร้างความแน่ใจว่า สิ่งที่คุณค้นหานั้นมีอยู่จริง เพราะตัวแอปได้รวบรวมข้อมูลไว้ให้คุณแล้ว แถมแอปนี้ยังได้รวบรวมข่าวสาร และกลโกงต่างๆ เกี่ยวกับวงการคริปโตไว้ให้ศึกษา เพื่อเสริมเกราะความรู้เท่าทันอีกด้วย
ตอนนี้กลโกงนั้นจี้ตัวคุณอยู่รอบด้าน ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ อย่างข่าวข้างต้นที่เสนอไป หากคุณไม่อยากพลาด โหลดแอปนี้ติดมือถือไว้ แล้วเช็คมันให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน!!
แอปพลิเคชั่น ‘Wikibit’ เป็นแอปที่คุณสามารถใช้ตรวจสอบ ‘แอปเทรดคริปโต’ ‘เหรียญคริปโต’ และ ‘DeFi’ ได้อย่างสะดวกสบาย เพียงแค่กดค้นหาเท่านั้น ข้อมูลที่คุณควรรู้ก็จะปรากฏขึ้นมาแบบครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น คะแนนความน่าเชื่อถือจากแอป ใบอนุญาต ข้อมูลโครงการ การเยี่ยมชมจากเจ้าหน้าที่เพื่อยืนยันการมีอยู่ของบริษัทนั้น แถมตัวแอปยังมีการอัปเดตข้อมูลข่าวสาร และรูปแบบกลโกงในวงการ ไว้ให้คุณได้ศึกษาอีกด้วย ถือว่าครบจบในแอปเดียว โหลดเลย!!
ติดตามข้อมูลข่าวสารวงการคริปโต พร้อมตรวจสอบ Exchange ทั่วโลก รวบรวมข้อมูล Shitcoin และโครงการเถื่อน ได้ที่….
App : “WikiBit” (ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ ฟรี!)
Facebook : https://www.facebook.com/Wikibit.th/ (กด SEE FRIST เพื่อที่คุณจะไม่พลาดข่าวสาร และกิจกรรมต่างๆ จากทางเพจ)
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
เป็นที่ถกเถียงไปทั้งโซเชียล เมื่อหนุ่มจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ออกมาตั้งคำถามถึงคนรุ่นใหม่ว่า ทำไมคิดว่าการซื้อคริปโต ถึงดีกว่าซื้อ ที่ดิน ทั้ง ๆ ที่ดินรายได้มั่นคงกว่าคริปโต คุณคิดว่าเพราะอะไร?
อินเดียเตรียมที่จะเสนอร่างกฎหมายเกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซีฉบับใหม่ในรัฐสภา และบรรดานักลงทุนคาดว่า การดำเนินการดังกล่าวอาจหมายถึงอนาคตของเงินดิจิทัลในอินเดียซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียใต้
จีนคุมเข้มเงินคริปโต ประกาศให้รัฐวิสาหกิจจีนที่ทำเหมืองขุดสกุลเงินดิจิทัลยุติการดำเนินการดังกล่าว พร้อมกับเตรียมออกบทลงโทษผู้ที่ฝ่าฝืน เรื่องนี้ส่งผลให้ค่าเงินกลุ่มนี้ร่วงตามกันเป็นแถว
วันนี้เราจะพาไปดูบทเรียนครั้งใหญ่ในโลกคริปโตของนักแสดง Youtuber ชื่อดัง อย่าง ‘หญิงแย้’ เธอได้เคยออกมาเล่าถึงประสบการณ์ความผิดพลาดจนเกือบสูญเงิน 3 ล้านบาทไปกับบิทคอยน์! เรื่องราวเหล่านั้นเป็นอย่างไร และเธอผ่านมาได้ยังไง ไปดูกัน