ดอลลาร์ขึ้น ใกล้ระดับสูงสุดในรอบเดือน โควิดยังคงเป็น “ปัจจัยสำคัญ”

โดย Gina Lee

Investing.com – ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในเช้าวันนี้ ใกล้ระดับสูงสุดในรอบหลายเดือน นักลงทุนหันเข้าหาสกุลเงินที่ปลอดภัยอย่างดอลลาร์ เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยโควิดที่ยังคงเพิ่มขึ้นทั่วโลกทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

ดัชนีดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 0.02% เป็น 92.707 เมื่อเวลา 00:28 น. ET

ค่าเงินเยน ขยับลง 0.15% เป็น 109.91 ดอลลาร์

ค่าเงินออสเตรเลีย ลดลง 0.22% เป็น 0.7386 และ ดอลลาร์นิวซีแลนด์ ขยับลง 0.20% เป็น 0.6994 ดอลลาร์

ค่าเงินหยวนจีน เพิ่มขึ้น 0.01% เป็น 6.4790 และ ค่าเงินปอนด์สเตอร์ลิ่ง ลดลง 0.09% เป็น 0.3760

ค่าเงินบาท ซื้อขายอยู่ที่ 32.84 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินออสเตรเลียที่มีความเสี่ยงร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดของปีเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่แตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนเมื่อเทียบกับเงินเยน

“การซื้อขายในตลาดเป็นไปท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์โควิด” โรดริโก้ คาทริล นักยุทธศาสตร์ด้านสกุลเงินอาวุโสของ National Australia Bank (OTC:NABZY กล่าว

“นั่นเป็นปัจจัยสำคัญ” เขากล่าวเสริม ในขณะที่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคในสหรัฐที่ลดลงอย่างน่าประหลาดใจก็ทำให้นักลงทุนหวั่นไหวเช่นกัน

เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลทางเศรษฐกิจที่สำคัญใด ๆ นอกเหนือไปจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ ภาคการผลิต และ ภาคบริการ ที่จะประกาศในวันศุกร์ ในระหว่างนี้เรื่องของโควิดจึงยังคงเป็นจุดสนใจสำหรับนักลงทุน

ธนาคารแห่งประชาชนจีนจะกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อ้างอิงในวันอังคารนี้ โดยมีโอกาสสูงที่อัตราดอกเบี้ยจะลดลง ส่วนธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางอินโดนีเซียจะประกาศการตัดสินใจด้านนโยบายในวันพฤหัสบดี

การที่อังกฤษยกเลิกมาตรการคุมเข้มโควิดในวันนี้ ค่าเงินปอนด์จึงอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบกว่าหนึ่งสัปดาห์ แม้จะมีความหวังต่อการเร่งขับเคลื่อนการฉีดวัคซีน แต่จำนวนผู้ป่วยก็เพิ่มสูงขึ้นในช่วงวันก่อนหน้า

ซาจิด จาวิด รมว.สาธารณสุขของอังกฤษ มีผลตรวจเป็นบวกสำหรับเชื้อโควิด ทำให้นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ต้องกักตัวเองหลังจากมีการติดต่อสัมผัสกับเขา

เนเธอร์แลนด์ผ่อนคลายข้อจำกัดทั้งหมดและพบว่ามีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจาก 500 เป็น 10,000 ต่อวันภายในสองสัปดาห์ ทำให้รัฐบาลต้องพลิกสถานการณ์และรอคอยอย่างกังวลใจเพื่อดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับระบบการรักษาในโรงพยาบาล ดังนั้น จึงมีความกังวลว่าประเทศอังกฤษอาจต้องเผชิญกับสถานการณ์ดังกล่าวในวันนี้ นักวิเคราะห์ของธนาคาร ANZ กล่าวในรายงาน