简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:วันนี้ Wikibit ทำสรุปจุดแข็งของแต่ละโบรกเกอร์ที่ขึ้นทะเบียนถูกกฎหมายกับก.ล.ต. พร้อมกับแนะนำวิธีเลือกโบรกเกอร์มาฝากกัน
กระแสการลงทุนกับเงินดิจิตอลหรือบิทคอยน์มาแรงจริงๆ นักลงทุนทั้งรายใหญ่รายย่อยให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในตลาดเงินดิจิตอลกันอย่างล้นหลาม สำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกโบรกเกอร์ไหนดี วันนี้ Wikibit ทำสรุปจุดแข็งของแต่ละโบรกเกอร์ที่ขึ้นทะเบียนถูกกฎหมายกับก.ล.ต. พร้อมกับแนะนำวิธีเลือกโบรกเกอร์มาฝากกัน
แนะนำวิธีในการเลือกโบรกเกอร์สำหรับมือใหม่
มือใหม่อย่างเราเลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับการใบอนุญาตจากก.ล.ต. (SEC)
พิจารณา Volume ในการเทรด ถ้ามียอดสูงๆ ก็จะดี เพราะมีสภาพคล่อง คำสั่งซื้อขายจะจับคู่ได้เร็ว
เลือกโบรกเกอร์ที่มีเงินฝากต่ำ
ค่าธรรมเนียมการเทรดต่ำ จะทำให้เหลือกำไรมากขึ้น
มีบริการ Live Chat 24 ชั่วโมง ให้บริการโดยคนไทย จะทำให้คุณมีทีมที่คอยช่วยแก้ปัญหา ไม่เคว้งคว้าง
ฝากเงินหรือถอนเงินได้สะดวกและรวดเร็ว ทำได้หลายช่องทาง จะได้เทรดสะดวก ไม่เสียเวลา
มีเหรียญที่คุณสนใจ
หากมีโปรโมชั่นหรือกิจกรรม ที่ให้โบนัส จะทำให้ได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้น
เลือกเว็บที่มีความเสถียร ไม่ล่มบ่อย จะได้ไม่เสียโอกาสในการทำกำไร หรือฝากถอน
มีริวิวดีๆ จากนักลงทุน ก่อนเลือกโบรกเกอร์ให้หาข้อมูลแต่ละโบรกเกอร์ก่อนจาก อินเตอร์เนท หรือ เพื่อนที่เทรดมาก่อน
WikiBit ขอแนะนำเลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับอนุญาตจากทาง ก.ล.ต ให้ประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) อย่างเป็นทางการ แล้วมีอะไรบ้าง? เราจึงได้หยิบยก 4 โบรกเกอร์ไทยที่ได้รับอนุญาตมาแนะนำกันครับ
1.Satang Proก่อตั้ง : ปี 2560
สัญชาติ : ไทย
ค่าธรรมเนียมการเทรด : 0.12 – 0.20%
ค่าธรรมเนียมการถอน : 18 บาท
สกุลเงิน : 35 สกุล
จุดแข็ง Satang Pro- เป็นพาร์ทเนอร์อย่างเป็นทางการกับ Binance ทำให้ซื้อขาย Bitcoin หรือเหรียญอื่นๆ ได้ง่ายและ สะดวก
- ซื้อ Bitcoin ด้วยเงินบาท ง่ายและรวดเร็วมากๆ เหมาะสำหรับคนที่เทรดแบบ Arbitage เงินหมุนเข้าหมุนออกได้อย่างรวดเร็ว
- รับ Passive Income เป็นดอกเบี้ยปันผลของ Zcoin ได้ด้วย โดยฝากเหรียญไว้ใน Satang Pro
- ถอนเงินแบบได้ง่ายไม่มีขั้นต่ำ โดยเงินจะเข้าบัญชีภายใน 5-10 นาที
- ได้รับค่าคอมมิชชั่น 30% เมื่อแนะนำผู้ใช้งานพร้อมบริการลูกค้าผ่านทาง Online chat, email, โทรศัพท์ ซึ่งให้บริการตลอดเวลา
2. Bitkub
ก่อตั้ง : ปี 2561
สัญชาติ : ไทย
ค่าธรรมเนียมการเทรด : 0.25%
ค่าธรรมเนียมการถอน : 20-200 บาท
สกุลเงิน : 49 สกุล
จุดแข็ง Bitkub- เว็บเทรดที่มี Volume ใหญ่มากๆ ในไทย มากกว่า 2,000 ล้านบาท
- ซื้อขายได้อย่างรวดเร็ว
- โอนเงินเข้าออกได้เร็วมากๆ ระดับวินาที
- ทุนจดทะเบียนถึง 290 ล้านบาท
- มีระบบการป้องกันการโจมตีจาก DDos โดยการ Encrypt ข้อมูลและเก็บเหรียญส่วนใหญ่ลง Offline Storage
- มีค่าแนะนำเพื่อนมาเทรด รับเงินคืนสูงสุด 20%
- ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างรวดเร็ว ตอบคำถาม แก้ปัญหาด้วยความรวดเร็วตลอด 24 ชั่วโมง
3. Zipmexก่อตั้ง : ปี 2561
สัญชาติ : สิงคโปร์
ค่าธรรมเนียมการเทรด : ไม่มี
ค่าธรรมเนียมการถอน : 20 บาท
สกุลเงิน : 19 สกุล
จุดแข็ง Zipmex- มีสกุลเงินดิจิตอลให้เลือกหลากหลายรูปแบบ อาทิเช่น Bitcoin, Litecoin, Ethereum เป็นต้น
- เทรดได้ด้วยเงินบาท
- ทุนจดทะเบียน 52 ล้านบาท
- หากซื้อเหรียย ZMT ติดกระเป๋ากับ Zipmex จะได้ปันผลรายวัน เป็น Passive Income ที่ดึงดูดใจ นักลงทุนมากๆ
- ได้ดอกเบี้ยจากการซื้อเหรียญอื่น ๆ เช่น Bitcoin, Ethereum หรือเหรียญคริปโตหลักอื่น ๆ ฝากไว้ ในกระเป๋า Zipmex
- บริการหลังการขายชั้นเยี่ยม บริการรายบุคคล ติดต่อสอบถามได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้นักลงทุนสะดวกมากขึ้น
- สามารถซื้อเหรียญอื่น ๆ เช่น Bitcoin, Ethereum หรือเหรียญคริปโตหลักอื่น ๆ และฝากไว้ใน กระเป๋า Zipmex เพื่อกินดอกเบี้ยได้เช่นกัน
- ร่วมมือกับ BitGo ผู้ให้บริการรักษาสินทรัพย์ระดับโลก เพื่อให้สินทรัพย์ได้รับประกันความปลอดภัย วงเงินสูงสุด 100 ล้านดอลลาร์
4. Upbit
ก่อตั้ง : ปี 2561
สัญชาติ : เกาหลีใต้ / ไทย
ค่าธรรมเนียมการเทรด : 0.15 – 0.25%
ค่าธรรมเนียมการถอน : 15 บาท
สกุลเงิน : 65 สกุล
จุดแข็ง Upbit
- แพลทฟอร์มมีความรวดเร็วและเสถียรมาก เทียบเคียงสถาบันการเงินชั้นนำของโลก
- เช็คราคาได้แบบ real-time
- มีความปลอดภัยสูง ด้วย BitGo Dual Wallet เทคโนโลยีที่ตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยน เงินดิจิทัลชั้น นำใช้กัน ระบบเฝ้าระวังความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์
- ซื้อ bitcoin ด้วยเงินบาทได้เลย สะดวกมากๆ
- มีเหรียญใหม่ๆ เพิ่มมา โดยเป็นเหรียญที่น่าสนใจในระดับโลก เช่น Polkadot, Cardano, Chainlink เป็นต้น
- เชื่อมตลาดเข้ากับตลาดเกาหลีใต้ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่มากๆ ในเอเชีย ทำให้ได้เทรดกับตลาดระดับโลกแต่ยังได้รับความคุ้มครองจากการกำกับดูุแลในไทยอยู่
ปัจจุบันการลงทุนใน Cryptocurrencies เป็นการลงทุนที่ได้รับความสนใจมากๆ เนื่องจากทำกำไรได้อย่างมหาศาล แต่ว่าการลงทุนในตลาดนี้ก็ยังใหม่สำหรับคนไทยมาก ก่อนทำการลงทุนควรศึกษาหาข้อมูลให้มั่นใจ วางแผนการลงทุนให้ดี เลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาต และที่สำคัญมากๆ คือระวังเว็บหรือลิงค์เว็บปลอมที่เนียนเป็นเว็บ Official มาจะหลอกให้ลงทุน หรือสามารถตรวจสอบข้อมูลโบรกเกอร์ที่เลือกได้แบบง่ายๆผ่านแอปพลิเคชั่น WikiBit เพื่อเลือกเว็บเทรดจากลิงค์ที่เชื่อถือได้เท่านั้น แถมมีข้อมูลข่าวสารที่หลากหลาย ช่วยเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการตัดสินใจได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย สามารถหาดาวน์โหลดได้ฟรี!! ทั้ง App Store และ Play Store
แอปพลิเคชั่น ‘Wikibit’ มีฟีเจอร์โดนๆ สำหรับนักลงทุน อย่าง การตรวจสอบ Exchange และ Token เพื่อช่วยให้การตัดสินใจในการลงทุนของคุณนั้นง่ายขึ้น เพียงแค่คุณกดค้นหาเท่านั้น ข้อมูลที่คุณควรรู้ก็จะปรากฏขึ้นมาแบบครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น คะแนนความน่าเชื่อถือจากแอป ใบอนุญาต ข้อมูลโครงการ การเยี่ยมชมจากเจ้าหน้าที่เพื่อยืนยันการมีอยู่ของบริษัทนั้นตามที่ได้แจ้งข้อมูลกับทาง ก.ล.ต. เพื่อขอใบอนุญาต ถือว่าครบจบในแอปเดียว อย่ารอช้าโหลดเลย!
แอปพลิเคชั่น ‘Wikibit’ มีฟีเจอร์โดนๆ สำหรับนักลงทุน อย่าง การตรวจสอบ Exchange และ Token เพื่อช่วยให้การตัดสินใจในการลงทุนของคุณนั้นง่ายขึ้น เพียงแค่คุณกดค้นหาเท่านั้น ข้อมูลที่คุณควรรู้ก็จะปรากฏขึ้นมาแบบครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น คะแนนความน่าเชื่อถือจากแอป ใบอนุญาต ข้อมูลโครงการ การเยี่ยมชมจากเจ้าหน้าที่เพื่อยืนยันการมีอยู่ของบริษัทนั้นตามที่ได้แจ้งข้อมูลกับทาง ก.ล.ต. เพื่อขอใบอนุญาต ถือว่าครบจบในแอปเดียว อย่ารอช้าโหลดเลย!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
Pepperstone
STARTRADER
FBS
EC Markets
Vantage
IC Markets Global
Pepperstone
STARTRADER
FBS
EC Markets
Vantage
IC Markets Global
Pepperstone
STARTRADER
FBS
EC Markets
Vantage
IC Markets Global
Pepperstone
STARTRADER
FBS
EC Markets
Vantage
IC Markets Global