简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:โดย Dhirendra Tripathi หุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นในวันพุธ หลังจากโดนเทขายเมื่อวันก่อน เนื
โดย Dhirendra Tripathi
หุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นในวันพุธ หลังจากโดนเทขายเมื่อวันก่อน เนื่องจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้น
แต่ความไม่แน่นอนยังคงมีอยู่ หุ้นซื้อขายกันมากในช่วงต้น จากนั้นก็เข้าสู่แดนบวก และเริ่มมีทิศทางหลากหลาย ฝ่ายนิติบัญญัติในสภา ยังคงเล่นเกมต่อรองการระดมทุนอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลกลาง
นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เตือนถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในระยะกลาง และอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มสูงขึ้นในปีนี้
“เป็นเรื่องน่าผิดหวังที่ต้องยอมรับว่าการให้วัคซีนแก่ผู้คนและควบคุมโควิดสายพันธุ์เดลต้าให้อยู่ภายใต้การควบคุม 18 เดือนที่ผ่านมา ยังคงเป็นนโยบายทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดที่เรามี” พาวเวลล์กล่าว ในการตอบคำถามเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐฯ การการประชุม ECB ตามรายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์ส
“และมันก็น่าผิดหวังเช่นกันที่ปัญหาคอขวดและปัญหาห่วงโซ่อุปทานไม่ดีขึ้น และดูเหมือนจะแย่ลงเล็กน้อย” พาวเวลล์กล่าว “เราเห็นว่าปัญหานี้อาจดำเนินต่อไปในปีหน้า และอุ้มปัญหาเงินเฟ้อไว้นานกว่าที่เราคิด”
สภาคองเกรสมีเวลาจนถึงสิ้นวันพฤหัสบดีก่อนที่รัฐบาลจะเริ่มปิดตัวลง เว้นแต่ว่าพรรคเดโมแครตประสบความสำเร็จในความพยายามจัดหาเงินทุนชั่วคราว ในขณะที่ยังคงขัดแย้งกับพรรครีพับลิกันเรื่องวงเงินหนี้ เรายังคงต้องจับตาดูต่อไป
ต่อไปนี้คือสามสิ่งที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดในวันนี้:
1. ผลประกอบการ
CarMax Inc (NYSE:KMX) กำไรต่อหุ้นในไตรมาสที่สองอยู่ที่ 1.85 ดอลลาร์จากรายรับ 6.78 พันล้านดอลลาร์ ตามที่นักวิเคราะห์รวบรวมข้อมูลโดย Investing.com ในขณะเดียวกัน บริษัทค้าปลีกตกแต่งบ้าน Bed Bath & Beyond Inc (NASDAQ:BBBY) คาดว่าจะประกาศรายรับในไตรมาสที่สองที่ 2.06 พันล้านดอลลาร์และกำไร 52 เซนต์ต่อหุ้น
2. ตัวเลขเศรษฐกิจ
เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะเติบโตในไตรมาสที่สอง ในระดับเดียวกับไตรมาสแรก จากการประมาณการพบว่ามีการเติบโตที่ 6.6% 'การประมาณการครั้งที่สอง' ได้ตรึงตัวเลขคาดการณ์ไว้ที่อัตรา 6.6% ข้อมูล GDP คาดว่าจะออกมาในเวลา 8:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1230 GMT)
3. เงินเฟ้อ
การใช้จ่ายของผู้บริโภคในสหรัฐฯ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 3.7% ในไตรมาสที่สอง โดยชะลอตัวลงจากการเติบโต 6.5% ของไตรมาสแรกดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) มีแนวโน้มเติบโต 6.1% ในไตรมาสที่สอง ไม่เปลี่ยนแปลงจากไตรมาสแรก ข้อมูลนี้จะครบกำหนดประกาศในเวลา 8:30 น. ET
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
HFM
FBS
FP Markets
Pepperstone
STARTRADER
Vantage
HFM
FBS
FP Markets
Pepperstone
STARTRADER
Vantage
HFM
FBS
FP Markets
Pepperstone
STARTRADER
Vantage
HFM
FBS
FP Markets
Pepperstone
STARTRADER
Vantage