ดอลลาร์อ่อนค่าลง ก่อนเผยข้อมูลค้าปลีก

ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อย ในช่วงบ่าย ในวันศุกร์ หลังจากความต้องการความเสี่ยงฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในวันพฤหัสบดี โดยได้แรงหนุนจากสกุลเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินปลอดภัย

ดัชนีดอลลาร์ ที่ได้จากการเทียบค่าเงินดอลลาร์เทียบกับสกุลเงินอื่นอีก 6 สกุล ลดลงน้อยกว่า 0.1% ที่ 93.938 สาเหตุหลักมาจากการลดลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินสินค้าโภคภัณฑ์

ดอลลาร์นิวซีแลนด์ ลดลง 0.2% และ ดอลลาร์ออสเตรเลีย และ ดอลลาร์แคนาดา ลดลง 0.1% หนึ่งวันหลังจากตัวเลขผู้ผลิตออกมาอ่อนแอกว่าที่คาดเล็กน้อย อัตราเงินเฟ้อ และกำไรของภาคธนาคารที่แข็งแกร่งพอสมควรทำให้หุ้นสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

เงินยูโรกลับมาที่ระดับ 1.16 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 10 วัน ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1.3697 ปอนด์ต่อดอลลาร์ หลังจากปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากจากความคืบหน้าในการเจรจากับสหภาพยุโรปเกี่ยวกับการดำเนินการตามข้อตกลง Brexit ในตลาดไอร์แลนด์เหนือ

ตลาดสกุลเงินสัปดาห์นี้ดูเหมือนจะปิดลงอย่างผ่อนคลายพอสมควร เนื่องจากความกลัวเรื่องเงินเฟ้อลดลงเล็กน้อย อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีกลับมาที่ 1.54% ซึ่งต่ำกว่าระดับสูงสุด 8 จุดเมื่อต้นสัปดาห์นี้

ทอม บาร์กิ้น ประธานธนาคารกลางสหรัฐของริชมอนด์ กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า “ไม่น่าละอาย” ที่จะยอมรับว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังพิสูจน์ว่ามัน 'ดื้อด้าน' เกินคาด ขณะที่คณะกรรมการเฟดยังคงให้ภาพว่าเงินเฟ้อในตอนนี้เป็นเพียงสถานการณ์ 'ชั่วคราว'

ข้อมูลจากสหรัฐอเมริกา ยอดขายปลีกที่จะเผยแพร่เวลา 8:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1230 GMT) คาดว่าจะลดลง 0.2% นอกจากนี้แนะจับตาใดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยมิชิแกนในเดือนกันยายน เวลา 10.00 น. ET โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวกับการคาดการณ์เงินเฟ้อ การสำรวจเมื่อเดือนที่แล้วแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคคาดว่าราคาจะเพิ่มขึ้น 4.6% ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 10 ปีที่ 4.7% ในเดือนกรกฎาคม