简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดวันจันทร์ (8พ.ย.)ปรับตัวขึ้น 66 เซนต์ ขานรับสหรัฐผ่านร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะหนุนความต้องการใช้น้ำมันในประเทศ
ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดวันจันทร์ (8พ.ย.)ปรับตัวขึ้น 66 เซนต์ ขานรับสหรัฐผ่านร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะหนุนความต้องการใช้น้ำมันในประเทศ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนธ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 66 เซนต์ ปิดที่ 81.93 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 69 เซนต์ ปิดที่ 83.43 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้อนุมัติร่างกฎหมายการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน วงเงินกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และจะส่งต่อให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดนลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยบวกจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรล/วันในเดือนธ.ค. แม้ว่าสหรัฐได้กดดันให้โอเปกพลัสเพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้นเพื่อชะลอการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน
ทั้งนี้ โอเปกพลัสเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอย่างระมัดระวัง เนื่องจากกังวลว่าอุปสงค์น้ำมันอาจทรุดตัวลงได้อีก ท่ามกลางการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 ในจีนและยุโรป
โอเปกพลัสจะประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 2 ธ.ค.นี้เพื่อกำหนดนโยบายการผลิตสำหรับเดือนม.ค.2565
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดวันพุธ(1ธ.ค.)ปรับตัวลง 61 เซนต์ หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงน้อยกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดวันอังคาร (2 พ.ย.)ปรับตัวลง 14 เซนต์ ขณะที่นักลงทุนพากันขายทำกำไรจากราคาที่พุ่งขึ้นก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว
ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดวันอังคาร(19ต.ค.)เพิ่มขึ้น 52 เซนต์ เพราะได้ปัจจัยหนุนจากความต้องการใช้พลังงานของจีน ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเย็น