ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งทำสถิติ หลัีง CPI พุ่งสูงสุดในรอบ 39 ปี

โดย Oliver Gray

Investing.com - ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น ในช่วงต้นของวันจันทร์ หลังจากดัชนีหลักปิดตัวลงหลังประเมินข้อมูลเงินเฟ้อใหม่ในวันศุกร์ เพิ่มขึ้นเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2525 แต่ยังคงเป็นไปตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และบรรเทาความกลัวว่าการซื้อสินทรัพย์จะลดลงอย่างรวดเร็วก่อนการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐในสัปดาห์นี้

ในช่วงเซสชั่นของวันศุกร์ ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่ม 216.3 จุดหรือ 0.6% เป็น 35971 เพิ่มขึ้น 4% ทำผลงานรายสัปดาห์ดีที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม S&P 500 เพิ่มขึ้น 44.57 จุดหรือ 0.95% สู่ 4712.01 เพิ่มขึ้น 3.8% ในสัปดาห์นี้ ขณะที่ NASDAQ Composite เพิ่มขึ้น 113.23 จุดหรือ 0.73% เป็น 15630.6 3.8% และ 3.6% ทำผลงานดีที่สุดตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดาวโจนส์ 30 เพิ่ม 0.15%, สัญญาซื้อขายล่วงหน้าS&P 500 เพิ่มขึ้น 0.15% และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า Nasdaq 100 เพิ่มขึ้น 0.11%

ในบรรดาหุ้นทั้งหมด ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวันศุกร์ โดย Tesla Inc (NASDAQ:TSLA) เพิ่มขึ้น 1.32% และ Lucid Group Inc (NASDAQ:LCID) เพิ่มขึ้น 3.12%

ด้านหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี Amazon.com Inc (NASDAQ:AMZN) และ Twitter Inc (NYSE:TWTR) ลดลง 1.12%, 1.94% ตามลำดับ ขณะที่ Apple Inc (NASDAQ: AAPL), Alphabet Inc Class A (NASDAQ:GOOGL) และ Microsoft Corporation (NASDAQ:MSFT) เพิ่ม 2.8%, 0.25% และ 2.83% ตามลำดับ

ด้านตลาดตราสารหนี้ อัตราผลตอบแทน พันธบัตรรัฐบาลอายุ10 ปี อยู่ที่ 1.487%

ในสัปดาห์นี้ นักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่ การประชุมตัดสินใจด้านนโยบาย สองวันของ ธนาคารกลางสหรัฐ อย่างเต็มที่ โดยผู้กำหนดนโยบายจะประกาศรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคลายแผนกระตุ้นเศรษฐกิจในยุคการระบาดใหญ่ ซึ่งอาจส่งสัญญาณให้ดำเนินการเร็วขึ้น ประธานเฟดเจอโรม พาวเวลล์ และไลน์อัดแถลงการณ์จากเจ้าหน้าที่เฟดเมื่อเร็ว ๆ นี้ ชี้ว่าธนาคารกลางสามารถยุติโครงการซื้อพันธบัตรรายเดือนมูลค่า 120,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ได้เร็วกว่าช่วงเวลาที่คาดไว้ปัจจุบันในเดือนมิถุนายน 2565