นักลงทุนจาก Wall Street กล่าวย้ำเตือนว่า Cryptocurrency เป็นสิ่งที่ไม่อาจถูกเพิกเฉยได้อีกต่อไป

อุตสาหกรรมคริปโตกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องในยักษ์ใหญ่ของ wall street ในจดหมายส่งท้ายปี Aryeh Bourkoff ประธานและ CEO ของบริษัท LionTree ได้เน้นย้ำถึงการเติบโตแบบทวีคูณและศักยภาพของคริปโตที่กำลังเติบโต “มันแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนถึงศักยภาพของเศรษฐกิจใหม่เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในการให้บริการชุมชนที่สามารถดำเนินการตามความคิดร่วมกันของพวกเขาไม่เพียงแต่เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจเท่านั้นแต่ยังสร้างมูลค่าที่ยั่งยืนได้อีกด้วย” เขายังบอกอีกว่า crypto นั้นสามารถบรรลุเป้าหมายของอินเทอร์เน็ตในการเพิ่มขีดความสามารถของบุคคลตามที่เขาได้พูดคริปโตนั้น “จะเป็นเรื่องที่เพิกเฉยไม่ได้อีกต่อไปแล้ว” โดยที่มูลค่าตลาดตอนนี้อยู่ที่ 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้เขาตั้งข้อสังเกตว่าคริปโตยังช่วยเหลือผู้ที่มีเงินสดส่วนเกินในการใช้ป้องกันเงินทุนของพวกเขาจากภาวะเงินเฟ้อในขณะเดียวกันก็จะได้ผลตอบแทนที่สูงอีกด้วย เขาได้ตั้งข้อสังเกตถึงการขยายแผนเกี่ยวกับ crypto ในอนาคต ของ LionTree “ขณะนี้เรากำลังเริ่มสำรวจวิธีการรับชำระด้วยคริปโตสำหรับบริการของเราและในอนาคตอันใกล้นี้เนื่องจากระบบนิเวศของเราเติบโตมากขึ้นเราอาจจะสร้างเหรียญแห่งความน่าไว้วางใจซึ่งเป็นเหรียญของเราที่สร้างขึ้นมาเอง” อย่างไรก็ตามการอวยของ Bourkoff นั้นมาพร้อมกับปัญหาที่เขารู้สึกว่าจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขก่อนที่คริปโตนั้นจะกลายเป็นกระแสหลักอย่างแท้จริงเขาตั้งข้อสังเกตว่าอุตสาหกรรมจำเป็นต้องใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดการยอมรับเป็นวงกว้าง ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดอาจจะเป็นกฎระเบียบที่ออกมาเพื่อควบคุมคริปโตตามรายงานจาก Bourkoff เนื่องจากอาจจะรวมถึงเหรียญคริปโตของรัฐบาลด้วยที่อาจจะจะถูกนำมาใช้เป็นทางเลือกแทนสกุลเงิน fiat เขาพูดว่า “ประเทศต่าง ๆ จะต้องสร้างสมดุลระหว่างกฎหมายและนวัตกรรมและควรสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ไม่ให้มัวเมาไปกับความต้องการในการควบคุมระบบเงินตราให้มีความเป็น centralized” Bourkoff และบริษัทของเขาเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนด้านการเงินแบบดั้งเดิมซึ่งขณะนี้กำลังเปิดทางเข้าสู่อุตสาหกรรมคริปโตเมื่อเร็ว ๆ นี้ Ray Dalio นักลุงทุนมหาเศรษฐีเผยว่าเขานั้นถือครอง Bitcoin และ Ethereum โดยเขาเสริมว่า “มันเป็นความสำเร็จที่น่าอัศจรรย์ของ Bitcoin ที่ได้ทำในสิ่งที่มันควรทำตั้งแต่ถูกเขียนโปรแกรมขึ้นมามันไม่ถูกแฮ็กทำให้มันใช้งานได้ดีและเป็นในแบบที่มันควรจะเป็น” อันที่จริงจากการสำรวจล่าสุดโดย EY พบว่าหนึ่งในสี่ของผู้จัดการกองทุนป้องกันความเสี่ยงคาดว่าจะเพิ่มการใช้คริปโตป้องกันความเสี่ยงในอีก 1-2 ปีข้างหน้านอกจากนี้ 20% ของนักลงทุนสถาบันก็มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน

กดอ่านข่าว นักลงทุนจาก Wall Street กล่าวย้ำเตือนว่า Cryptocurrency เป็นสิ่งที่ไม่อาจถูกเพิกเฉยได้อีกต่อไป ต่อที่ Siam Blockchain