简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:บริษัทวิดีโอเกมสัญชาติญี่ปุ่น Square Enix ประกาศขายบริษัทสตูดิโอเกมหลายแห่ง ซึ่งทั้งหมดเป็นสตูดิโอพั
บริษัทวิดีโอเกมสัญชาติญี่ปุ่น Square Enix ประกาศขายบริษัทสตูดิโอเกมหลายแห่ง ซึ่งทั้งหมดเป็นสตูดิโอพัฒนาที่อยู่เบื้องหลังเกมชื่อดังอย่าง Tomb Raider, Final Fantasy , Kingdom Hearts และ Dragon Quest เพื่อนำเงินที่ได้มาใช้ลงทุนในเทคโนโลยี บล็อกเชน โดยบริษัทได้เซ็นลงนามในสัญญาขายสตูดิโอ Crystal Dynamics, Eidos-Montréal และ Square Enix Montréal ให้กับ Embrace Group ด้วยราคา 300 ล้านดอลลาร์ อย่างที่ทราบกันดีว่า Square Enix เป็นบริษัทมีความกระตือรือร้นในเทคโนโลยีด้านบล็อคเชนอยู่แล้ว ซึ่งการประกาศดังกล่าวระบุว่าจะ “ช่วยทำให้บริษัทสามารถเปิดตัวธุรกิจใหม่ ๆ และก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยการลงทุนในเทคโนโลยีต่าง ๆ รวมถึง บล็อคเชน, AI และคลาวด์” ก่อนหน้านี้บริษัทได้ประกาศความร่วมมือกับ double jump โตเกียว เพื่อมุ่งเน้นสร้างเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง NFT และซุ่มพัฒนาในเรื่องนี้มานานกว่าหนึ่งปีแล้ว แต่ทว่าก็ยังไม่มีการอัปเดตใด ๆ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อย่างไรก็ตามการประกาศในครั้งนี้ ทำให้คอเกมส่วนใหญ่รู้สึกผิดหวังไปตาม ๆ กันและได้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมาย ซึ่งดูเหมือนว่าหลายคนไม่เห็นด้วยสำหรับเรื่องที่เทคโนโลยีบล็อคเชนจะสามารถนำมาปรับเข้ากันกับวิดีโอเกมได้ Tomb Raider ถือเป็นหนึ่งในแฟรนไชส์เกมที่มีชื่อเสียงที่สุดในวงการ ทั้งมีการสร้างภาพยนตร์และเป็นเกมที่โดดเด่นที่มีฐานแฟน ๆ เหนียวแน่น และด้วยการที่บริษัทวิดีโอเกมเริ่มให้ความสนใจในเทคโนโลยีใหม่ๆ มากขึ้น ดังนั้นนี่อาจเป็นกรณีตัวอย่างที่เกมที่มีชื่อเสียงอื่น ๆ อาจพิจารณาหันมาใช้ NFT บ้างก็เป็นได้ ที่มา : beincrypto
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ