简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:Investing.com – ธนาคารกลางไทยกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้
Investing.com – ธนาคารกลางไทยกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่สูงกว่าเป้าหมายจะค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากเศรษฐกิจกำลังเผชิญกับการฟื้นตัวช้าและค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นหนึ่งในธนาคารกลางรายใหญ่ไม่กี่แห่งในเอเชียที่คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่เกิดโรคระบาด แต่เมื่อไม่นานมานี้ได้ส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีในเดือนพฤษภาคม
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปีนี้จะยังคงอยู่ในระดับสูง แต่น่าจะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายของ ธปท. ที่ 1-3% ในไตรมาสที่สองของปี 2023 นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้อำนวยการอาวุโส กล่าวในงานสัมมนาการค้า
ธปท. ได้คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อที่ 6.2% ในปีนี้และ 2.5% ในปีหน้าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ 3.3% ในปี 2022 และ 4.2% ในปี 2023
สักกะภพ กล่าวว่าพื้นที่เศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นคาดว่าจะกลับสู่ระดับก่อนเกิดโรคระบาดในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า
โดยความล่าช้าของการปรับนโยบายการเงินให้เป็นปกติจะเพิ่มความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงจะเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัว ตามรายงานการประชุมครั้งล่าสุดของ ธปท. เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ในที่ประชุมได้รับคะแนนเสียง 4-3 ให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.5% ซึ่ง 3 ใน 4 ได้ออกเสียงให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าการประชุมครั้งต่อไปของ ธปท. ในวันที่ 10 ส.ค. จะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2018
สักกะภพกล่าวว่าค่าเงินบาทอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วและจะมีความผันผวนมากขึ้น โดยได้แรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ค่าเงินบาทที่ซื้อขายในวันพฤหัสบดีใกล้ระดับที่อ่อนแอที่สุดในรอบ 5 ปีครึ่งเทียบกับดอลลาร์
เขากล่าวว่ามี “สัญญาณที่ชัดเจนขึ้นของการไหลออกของเงินทุน” ในเดือนมิถุนายน พร้อมเสริมว่าธนาคารกลาง “จะดูแลค่าเงินบาทหากตลาดเคลื่อนไหวเกินปัจจัยพื้นฐาน”
จนถึงเดือนนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยสุทธิประมาณ 29 พันล้านบาท (818.52 ล้านดอลลาร์) และพันธบัตรไทยประมาณ 37 พันล้านบาท (1.04 พันล้านดอลลาร์)
(ค่าเงินบาท USD/THB = 35.43 บาท)
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
FBS
FOREX.com
FxPro
HFM
IQ Option
Pepperstone
FBS
FOREX.com
FxPro
HFM
IQ Option
Pepperstone
FBS
FOREX.com
FxPro
HFM
IQ Option
Pepperstone
FBS
FOREX.com
FxPro
HFM
IQ Option
Pepperstone