简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ราคาทองคำปรับตัวลดลงตลอดทั้งวัน โดยได้รับแรงกดดันจากค่าเงินเยน
ราคาทองคำในวันศุกร์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลง 17.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำปรับตัวลดลงตลอดทั้งวัน โดยได้รับแรงกดดันจากค่าเงินเยนร่วงลงมากกว่า 1% เมื่อเทียบกับดอลลาร์หลังจากที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) คงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษ (Ultraeasy Monetary Policy) สวนทางกับธนาคารกลางอื่น ๆ ทั่วโลก ซึ่งการอ่อนค่าของเยนเป็นหนึ่งในปัจจัยที่หนุนให้ดอลลาร์แข็งค่าในวันศุกร์จนสร้างแรงกดดันให้แก่ราคาทองคำ ประกอบกับเกิดแรงขายทางเทคนิคในตลาดทองคำ หลังจากราคาทองคำหลุดกรอบล่างของ Rising Wedge นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวต่อไป หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคลในสหรัฐซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนก.ย. “สูงกว่า” ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.4% พร้อม “ปรับเพิ่ม” ตัวเลขในเดือน ส.ค. ให้สูงขึ้นเป็น 0.6% จากเดิมที่ 0.4% ในรายงานก่อนหน้านี้ ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญเพิ่มขึ้น 5.1% ในเดือน ก.ย. เมื่อเทียบรายปี แม้จะต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.2% แต่ยังคงบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟดต่อไป และการคาดการณ์ดังกล่าวช่วยหนุนดัชนีดอลลาร์ให้แข็งค่า ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ฟื้นตัวขึ้นมายืนเหนือ 4% จนกดดันทองคำให้ร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,638.28 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -2.61 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนี PMI เขตชิคาโก
ราคาลดระดับสูงสุดในรายวันลง แสดงให้เห็นถึงแรงขายที่เพิ่มขึ้น หากวันนี้ ราคาทดสอบโซนแนวต้านบริเวณ 1,653-1,657 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ไม่สามารถผ่านได้ ระยะสั้นมีแรงขายดันให้ราคาอ่อนตัวลง หากไม่หลุดแนวรับโซน 1,633-1,614 ดอลลาร์ต่อออนซ์ราคามีโอกาสดีดตัวขึ้นช่วงสั้นอีกครั้ง
คําแนะนํา เปิดสถานะขาย $1,653-1,657
จุดทํากําไร ซื้อคืนเพื่อทํากําไร $1,633-1,614
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะขายหากหลุด $1,674
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
กฎสำคัญของการเทรดแบบ Scalping 1.ใช้กลยุทธ์ Scalping ที่มีคุณภาพ 2.หาจุดคุ้มทุน (Break-even stops) 3.อย่าคิดว่าการเทรดบ่อย ๆ จะทำให้ได้เงินเยอะ 4.ติดตามกลยุทธ์การเทรด 5.ปฏิบัติตามแผนกลยุทธ์การเทรดที่วางไว้ 6.เทรดด้วยอัตราการชนะที่มากกว่า 7.ใช้กรอบเวลาที่เหมาะสม 8.เริ่มต้นเล็ก ๆ ก่อน 9.เชี่ยวชาญในโครงสร้างตลาด 10.ฝึกฝนการเทรดทุกวัน
สเปรดมีความสำคัญต่อเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์เนื่องจากมีผลต่อต้นทุนการเทรดโดยตรง สเปรดที่ต่ำช่วยลดต้นทุนและรักษากำไรได้มากขึ้น โดยเฉพาะเทรดเดอร์ที่เทรดบ่อยหรือในปริมาณมาก สเปรดที่สูงสามารถลดกำไรเมื่อเวลาผ่านไป เทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์ Scalping และ Day Trading จะไวต่อสเปรดสูง เนื่องจากอาจลดหรือทำให้กำไรหายไป การเลือกโบรกเกอร์ที่มีสเปรดต่ำจึงสำคัญ ความผันผวนของตลาดอาจทำให้สเปรดกว้างขึ้น เทรดเดอร์มักเลือกเทรดในช่วงสภาพคล่องสูงและใช้คำสั่ง Limit เพื่อลดต้นทุน สุดท้าย การเลือกโบรกเกอร์ที่มีบัญชี ECN และการหลีกเลี่ยงข่าวผันผวนช่วยจัดการความเสี่ยงได้ดีขึ้น
บทวิเคราะห์บิตคอยน์
บทความนี้ชวนผู้อ่านสำรวจตนเองว่ากำลังเสพติดการเทรดหรือไม่ โดยชี้ให้เห็นสัญญาณสำคัญที่แสดงถึงการเสพติด เช่น การเพิ่มความเสี่ยงโดยไม่มีแผน หมกมุ่นกับการติดตามข้อมูล ละเลยกิจกรรมอื่น ๆ เทรดด้วยอารมณ์ และประสบความเครียดเมื่อไม่ได้เทรด การตระหนักถึงสัญญาณเหล่านี้จะช่วยป้องกันผลกระทบต่อการเงิน ความสัมพันธ์ และสุขภาพกายใจ
VT Markets
EC Markets
FOREX.com
IC Markets Global
ATFX
Pepperstone
VT Markets
EC Markets
FOREX.com
IC Markets Global
ATFX
Pepperstone
VT Markets
EC Markets
FOREX.com
IC Markets Global
ATFX
Pepperstone
VT Markets
EC Markets
FOREX.com
IC Markets Global
ATFX
Pepperstone