简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็น 0.5% ส่งสัญญาณขึ้นต่อเนื่องถึงปีหน้า
การประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเมื่อวันพุธที่ 14 ธันวาคม ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของสหรัฐในรอบ 15 ปี
FOMC ได้เพิ่ม อัตราดอกเบี้ยเกณฑ์มาตรฐาน เป็นช่วง 4.25% ถึง 4.5% จาก 3.75% เป็น 4% ก่อนหน้านี้
การเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นการชะลอตัวลงจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น 0.75% จากการประชุมสี่ครั้งก่อนหน้านี้ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่สูงชันนี้ถือว่าเพิ่มเร็วที่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษ 1980 และได้เริ่มส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อที่สูงชันบ้างแล้ว
ธนาคารกลางยังส่งสัญญาณว่ามีแนวโน้มที่จะคงอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นไปอีกนานจนถึงปี 2023 ซึ่งทำให้ผู้ร่วมตลาดผิดหวังเนื่องจากคาดว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยลงในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า เฟดคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2024 เหลือ 4.1% แต่สูงกว่า 3.9% ตามที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
เมื่อเดือนที่แล้ว นายเจอโรม เพาเวลล์ ประธานเฟดได้กล่าวถึงแรงกดดันด้านราคาที่แข็งแกร่งในภาคบริการหลัก ที่เป็นหัวใจหลักต่อเศรษฐกิจซึ่งได้แรงหนุนจากการเติบโตของค่าจ้าง รวมถึงในฐานะตัวขับเคลื่อนหลักของอัตราเงินเฟ้อ และย้ำว่ายังมีงานอีกมากที่ต้องทำ
เนื่องจากค่าจ้างเป็นต้นทุนที่ใหญ่ที่สุดในการให้บริการเหล่านี้ ตลาดแรงงานจึงถือเป็นกุญแจสำคัญที่เกี่ยวข้องกับอัตราเงินเฟ้อ พาวเวลล์กล่าวในการปราศรัยเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่งาน Brookings Institution ในวอชิงตัน
ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคพื้นฐานส่วนบุคคล ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดต้องการ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 3.5% ในปี 2023 เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 3.1% สำหรับปี 2024 อัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะชะลอตัวลงเหลือ 2.5% เทียบกับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 2.3% สมาชิกเฟดยังคงประมาณการอัตราเงินเฟ้อในปี 2025 ไม่เปลี่ยนแปลงที่ 2.1%
ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในระยะยาวขึ้นจะลดความต้องการในตลาดแรงงานมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งจะช่วยให้การเติบโตของค่าจ้างอยู่ภายใต้การควบคุม อัตราการว่างงานคาดว่าจะสูงถึง 4.6% ในปี 2023 และจะไม่เปลี่ยนแปลงในปีหน้า ตามการคาดการณ์ ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ในเดือนกันยายนก่อนหน้าที่ 4.4%
เฟดได้เห็นและรับทราบถึงผลกระทบของนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น สมาชิกเฟดได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตในปี 2023 ลงมากกว่าครึ่งเป็น 0.5% จาก 1.2% จากก่อนหน้านี้ โดยการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2024 ถูกคาดการณ์ไว้ที่ 1.6% ลดลงจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 1.7%
ในขณะที่เฟดเตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอัตราที่ช้าลง แต่นักลงทุนยังคงระมัดระวังความเสี่ยงที่ธนาคารกลางจะเข้มงวดมากเกินไปและถกกันว่าจะหยุดการปรับขึ้นชั่วคราวเร็วกว่าหรือไม่ เนื่องจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ต้องใช้เวลากว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างเต็มที่
ที่มา : Investing
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อาการทนแดงและไม่ทนฟ้าเกิดจาก “ความโลภ” และ “ความกลัว” ซึ่งเป็นปัจจัยทางจิตวิทยาที่เทรดเดอร์ทุกคนต้องเผชิญ การแก้ไขปัญหานี้ต้องอาศัยวินัย ความรู้ และการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง หากคุณสามารถวางแผนการเทรดอย่างมีประสิทธิภาพ จัดการความเสี่ยงได้ดี และควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ คุณจะสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้ให้เป็นโอกาสในการทำกำไรในตลาด Forex ได้อย่างยั่งยืน
ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก
แม้ว่า MBTI จะไม่ได้เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จในการลงทุนโดยตรง แต่การเข้าใจบุคลิกภาพของตนเองสามารถช่วยให้เลือกกลยุทธ์และรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมกับนิสัยและความต้องการของเราได้
ทั้งเงินเฟ้อและเงินฝืดต่างก็มีผลกระทบที่แตกต่างกันในมุมมองนักเทรด แต่สิ่งสำคัญคือการเข้าใจสภาพตลาดและปรับพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสม ถ้าเงินเฟ้อมาสูง เราต้องมองหาสินทรัพย์ที่รักษามูลค่าได้ แต่ถ้าเงินฝืดมาแรง การถือเงินสดหรือสินทรัพย์ปลอดภัยอาจเป็นทางรอด หมั่นติดตามข่าวเศรษฐกิจและปรับกลยุทธ์ให้ทัน เกมเศรษฐกิจแบบนี้ ถ้ารู้ทัน เราก็ชนะ!