简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:เหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจในสัปดาห์นี้
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทยเปิดเผยว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินเคลื่อนไหวผันผวนไปตามมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มการปรับดอกเบี้ยนโยบายของเฟด
• ควรรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจหลัก ผ่านรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการ รวมถึงรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของฝั่งยุโรปและญี่ปุ่น และรอจับตา รายงานผลประกอบการบรรดาบริษัทจดทะเบียนที่อาจกระทบต่อบรรยากาศในตลาดการเงินได้
• เงินดอลลาร์อาจเคลื่อนไหว sideways และขาดปัจจัยหนุนฝั่งแข็งค่า ยกเว้นว่า รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะออกมาดีกว่าคาด หรือ ตลาดปิดรับความเสี่ยงจากความผิดหวังรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ส่วนค่าเงินบาทอาจเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่า จากโฟลว์ธุรกรรมจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนต่างชาติกว่า 300 ล้านดอลลาร์ และโฟลว์ซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว ส่วน ฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ อาจเริ่มกลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทยมากขึ้นได้ หากตลาดกลับมาเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น ทำให้ค่าเงินบาทจะไม่ได้อ่อนค่าไปมากนัก ทั้งนี้ ในเชิงเทคนิคัล ต้องจับตาว่า เงินบาทจะสามารถทรงตัวเหนือระดับเส้นค่าเฉลี่ย EMA 50 วัน แถว 34.30 บาทต่อดอลลาร์ ได้หรือไม่
ไฮไลต์สำคัญทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจในสัปดาห์นี้มีดังนี้
1. ฝั่งสหรัฐฯ – แม้ว่ารายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจมีไม่มากนักในสัปดาห์นี้ แต่ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่านรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตอุตสาหกรรมและภาคการบริการ (S&P Manufacturing & Services PMIs) โดยตลาดประเมินว่า ผลกระทบจากปัญหาสภาพคล่องของระบบธนาคารในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงผลกระทบจากการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องของเฟด อาจกดดันให้ภาคการผลิตยังคงหดตัวอยู่ ชี้จากดัชนี PMI ภาคการผลิต เดือนเมษายน ที่อาจลดลงสู่ระดับ 49 จุด (ดัชนีต่ำกว่า 50 จุด หมายถึง ภาวะหดตัว)
ทั้งนี้ แม้ภาวะเงินเฟ้อสูงอาจกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้คนในสหรัฐฯ แต่โดยรวมกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในภาคการบริการจะยังคงได้รับแรงหนุนจากตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งและตึงตัว ทำให้ดัชนี PMI ภาคการบริการอาจอยู่ที่ระดับ 51.5 จุด นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตารายงานภาวะเศรษฐกิจโดยบรรดาเฟดสาขาต่างๆ (Fed Beige Book) เพื่อประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ เช่นกัน และนอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตา ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟดในอนาคต รวมถึงรอลุ้นรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน
2. ฝั่งยุโรป – ความกังวลต่อปัญหาระบบธนาคารยุโรปที่คลี่คลายลง อาจหนุนให้บรรดานักลงทุนสถาบันมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจเยอรมนีมากขึ้น โดยดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนี (ZEW Economic Sentiment) เดือนเมษายน อาจปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 15.1 จุด (ดัชนีสูงกว่า 0 หมายถึง มุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ) ซึ่งภาพดังกล่าวก็อาจสอดคล้องกับการปรับตัวขึ้นของดัชนี PMI ภาคการผลิตอุตสาหกรรมและภาคการบริการของเยอรมนีในเดือนเมษายนเช่นกัน ส่วนในภาพรวมเศรษฐกิจยูโรโซน ตลาดมองว่า เศรษฐกิจยูโรโซน รวมถึงอังกฤษยังมีแนวโน้มที่ดี โดยดัชนี PMI รวมของภาคการผลิตและภาคการบริการ (Composite PMI) เดือนเมษายน อาจปรับตัวขึ้นแตะระดับ 54 จุด สำหรับยูโรโซน และอาจปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 52.6 จุด สำหรับอังกฤษ
นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของฝั่งยูโรโซนและอังกฤษ โดย แม้ว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI ซึ่งไม่รวมผลของราคาพลังงานและอาหาร จะชะลอตัวลงต่อเนื่องแตะระดับ 5.7% (ยูโรโซน) และ 6.0% (อังกฤษ) แต่ระดับดังกล่าวก็ยังสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารอังกฤษ (BOE) เป็นอย่างมาก ทำให้เราคงมองว่า ทั้ง ECB และ BOE ยังมีโอกาสเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยนโยบายได้ต่ออีกราว 1-2 ครั้งในปีนี้
3. ฝั่งเอเชีย – ตลาดประเมินว่า เศรษฐกิจจีนอาจขยายตัวกว่า +3.8%y/y ในไตรมาสแรกของปีนี้ หนุนโดยการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะในฝั่งการบริโภค หรือ ภาคการบริการหลังการเปิดประเทศ ซึ่งสะท้อนผ่านดัชนี PMI ภาคการบริการที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้ ในส่วนรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในเดือนมีนาคม ตลาดคาดว่า ยอดค้าปลีกอาจขยายตัวกว่า +7.0%y/y ขณะที่ ยอดผลผลิตอุตสาหกรรม (Industrial Production) จะขยายตัวเพียง +4.0%y/y สอดคล้องกับดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนที่ไม่ได้ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเหมือนดัชนี PMI ภาคการบริการ ส่วนยอดการลงทุนสินทรัพย์ถาวร (Fixed Asset Investment) อาจโตราว +5.7%y/y (นับจากตั้งแต่ต้นปี)
ส่วนในฝั่งญี่ปุ่น ตลาดคาดว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะยังคงได้รับอานิสงส์จากการขยายตัวในภาคการบริการ หลังญี่ปุ่นได้เปิดประเทศมาสักระยะแล้ว โดยภาพดังกล่าวจะสะท้อนผ่านดัชนี PMI ภาคการบริการในเดือนเมษายน ที่จะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 55.5 จุด ส่วนในภาคการผลิตอุตสาหกรรมก็อาจเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ตามภาพเศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญ โดยเฉพาะจีนที่ยังคงสดใส แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจโลกอาจชะลอตัวลงก็ตาม ซึ่งตลาดคาดว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตอาจปรับตัวขึ้นแตะระดับ 49.9 จุด ได้ ทั้งนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาใกล้ชิด คือ รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของญี่ปุ่นในเดือนมีนาคม โดยเรามองว่า หากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ไม่รวมราคาพลังงานและอาหารสด (Core-Core CPI) ยังทรงตัวในระดับสูงราว 3.5% หรือปรับตัวสูงขึ้น ก็อาจเพิ่มโอกาสที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะสามารถทยอยใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นได้ในปีนี้ (เราคาดว่า BOJ อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย +10bps ในการประชุมเดือนกันยายน)
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
กว่าจะมาเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum เรื่องราวของ Vitalik Buterin เป็นมาอย่างไร?
การเทรด Forex ที่ประสบความสำเร็จสามารถเปรียบเทียบกับการเดินเรือข้ามมหาสมุทรที่ต้องใช้การวางแผนและความระมัดระวังในทุกขั้นตอน ซึ่งใน 5 วิธีที่กล่าวถึงนี้ ไม่มีขั้นตอนใดที่สามารถขาดไปได้: 1. Plan (การวางแผน) = จุดหมายปลายทาง 2. Strategy (กลยุทธ์) = แผนที่เส้นทางเพื่อที่จะไปยังจุดหมายปลายทาง 3. Risk Management (การจัดการความเสี่ยง) = ขับเรืออย่างระวังเพื่อที่จะไม่ให้ไปชนภูเขาน้ำแข็ง 4. Lookout for News (ติดตามข่าวสาร) = มีไหวพริบที่ดี สังเกตุถึงความผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้น 5. Play Your Own Game (เล่นเกมส์ชีวิตของตัวเองโดยไม่ไปแข่งกับผู้อื่น) = มุ่งไปหาเป้าหมายที่เราตั้งไว้
เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้กล่าวสุนทรพจน์ว่าด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจในงานเสวนาซึ่งจัดขึ้นที่เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัสเมื่อวานนี้ว่า
กฎสำคัญของการเทรดแบบ Scalping 1.ใช้กลยุทธ์ Scalping ที่มีคุณภาพ 2.หาจุดคุ้มทุน (Break-even stops) 3.อย่าคิดว่าการเทรดบ่อย ๆ จะทำให้ได้เงินเยอะ 4.ติดตามกลยุทธ์การเทรด 5.ปฏิบัติตามแผนกลยุทธ์การเทรดที่วางไว้ 6.เทรดด้วยอัตราการชนะที่มากกว่า 7.ใช้กรอบเวลาที่เหมาะสม 8.เริ่มต้นเล็ก ๆ ก่อน 9.เชี่ยวชาญในโครงสร้างตลาด 10.ฝึกฝนการเทรดทุกวัน
EC Markets
Vantage
Tickmill
HFM
Octa
OANDA
EC Markets
Vantage
Tickmill
HFM
Octa
OANDA
EC Markets
Vantage
Tickmill
HFM
Octa
OANDA
EC Markets
Vantage
Tickmill
HFM
Octa
OANDA