简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:เงินบาทเปิดอ่อนค่าที่ระดับ 34.69 บาท/ดอลลาร์ หลัง Fed ส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ผู้เล่นในตลาดลุ้นผลประชุม ECB ต่อ
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (Fed) มีมติเป็นเอกฉันท์ในการประกาศคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.00-5.25% หลังการประชุมในช่วง 13-14 มิ.ย. โดยการประกาศคงอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวเป็นไปตามที่ตลาดและบรรดานักวิเคราะห์หลายสำนักคาดการณ์กันไว้ก่อนหน้า หลังจากที่ Fed ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 10 ครั้งติดต่อกันนับตั้งแต่เริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมปี 2022 ส่งผลให้ Fed ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวมแล้ว 5.00%
รายงานของ Fed ได้คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (dot plot) ว่ามีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีก 2 ครั้ง สู่ระดับ 5.6% ภายในสิ้นปีนี้
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เผยค่าเงินบาทเปิดเช้าที่ 7 มิ.ย. ที่ระดับ 34.74 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 34.79 บาทต่อดอลลาร์ และมองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.65-34.85 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงคืนที่ผ่านมา ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวน โดยมีจังหวะอ่อนค่าลงบ้างทดสอบโซนแนวต้านแถว 34.80-34.90 บาทต่อดอลลาร์อีกครั้ง ตามการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ แต่เงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ตามโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำและการย่อตัวลงของเงินดอลลาร์
ยังคงมองว่า โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาท แม้จะมีอยู่บ้างแต่ก็แผ่วลงไปมากพอสมควร ดังจะเห็นได้จากการที่เงินบาทยังไม่สามารถอ่อนค่าทะลุโซนแนวต้าน 34.80-34.90 บาทต่อดอลลาร์ไปได้ไกล ซึ่งเรามองว่า ทิศทางเงินดอลลาร์ที่เริ่มแกว่งตัว sideway รอลุ้นผลการประชุมเฟด รวมถึงโฟลว์ขายเงินดอลลาร์จากบรรดาผู้ส่งออกในช่วงที่เงินบาทอ่อนค่าใกล้โซนแนวต้านเป็นปัจจัยที่ช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทในช่วงนี้
อย่างไรก็ดี เงินบาทอาจยังไม่พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นอย่างชัดเจน เนื่องจากยังขาดปัจจัยหนุนสำคัญ อย่างฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ ซึ่งล่าสุด เรายังไม่เห็นการกลับเข้ามาซื้อสุทธิสินทรัพย์ไทยของนักลงทุนต่างชาติ ทว่า แรงขายโดยนักลงทุนต่างชาตินั้นได้ลดลงไปมากแล้ว ทำให้แนวรับของเงินบาทอาจอยู่ในโซน 34.60-34.70 บาทต่อดอลลาร์
ฝั่งตลาดค่าเงิน
เงินดอลลาร์เคลื่อนไหวผันผวน โดยมีจังหวะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังเงินยูโรอ่อนค่าลง จากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจยูโรโซน อย่างยอดค้าปลีก (Retail Sales) ออกมาแย่กว่าคาด อย่างไรก็ดี การปรับตัวขึ้นของเงินดอลลาร์เป็นไปอย่างจำกัด หลังผู้เล่นในตลาดต่างทยอยขายทำกำไรออกมา กดดันให้เงินดอลลาร์ย่อตัวลง โดยล่าสุดดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 104 จุด
ฝั่งราคาทองคำ
ฝั่งราคาทองคำบรรยากาศเปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงินโดยรวมได้จำกัดการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ แม้ว่าราคาทองคำจะพอได้แรงหนุนอยู่บ้างจากการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์และการปรับตัวลดลงของบอนด์ยิลด์ 10 ปี สหรัฐฯ โดยล่าสุดราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค.) ยังคงแกว่งตัวใกล้ระดับ 1,980 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นต่อได้ เรามองว่าผู้เล่นในตลาดอาจรอจังหวะดังกล่าวในการทยอยขายทำกำไร ซึ่งโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำดังกล่าวมีส่วนช่วยหนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นได้สำหรับวันนี้ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าสนใจจะอยู่ที่ฝั่งจีน โดยผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาแนวโน้มการฟื้นตัวเศรษฐกิจจีนอย่างใกล้ชิด หลังข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดต่างชี้ว่า เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวได้แย่กว่าคาด โดยเฉพาะดัชนี PMI ภาคการผลิตอุตสาหกรรม โมเมนตัมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแรงลง ทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างคาดหวังว่าทางการจีนและธนาคารกลางอาจจำเป็นต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในอนาคต
และนอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว รอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เพื่อประเมินแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ย หลังล่าสุดอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนชะลอลงมากขึ้น
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
รวมรีวิวโบรกเกอร์ประจำสัปดาห์
เหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจ
บทวิเคราะห์บิตคอยน์
ทฤษฎี Loss Aversion แสดงให้เห็นถึงแรงขับทางจิตวิทยาที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของมนุษย์ ไม่ว่าจะในชีวิตประจำวันหรือในเรื่องการลงทุน การเข้าใจและเอาชนะภาวะนี้จึงเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถวางกลยุทธ์ได้ดีขึ้น และสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน