简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:FVG ย่อมาจาก Fair Value Gap หมายถึง ช่องว่างของราคาที่เกิดขึ้นบนกราฟ Forex ซึ่งเกิดจากการเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรงและรวดเร็ว มักเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ตลาดปิด หรือช่วงที่มีสภาพคล่องต่ำ ทำให้ราคาข้ามช่วงราคาไปโดยไม่มีการซื้อขาย เทรดเดอร์บางกลุ่มมองว่า FVG นั้นเปรียบเสมือน "แม่เหล็กดึงดูดราคา"
นักเทรดเคยเห็นกันไหม? ราคาพุ่งพรวด ๆ ทิ้งช่องโหว่ไว้ แล้วราคาก็กลับมาที่เดิมเป๊ะๆ นั่นแหละคือ FVG หรือ Fair Value Gap ช่องโหว่ราคาในตลาด Forex ซึ่งเราไม่ควรมองข้ามนะครับ วันนี้แอดเหยี่ยวจะชวนนักเทรดทุกคน ทำความรู้จักเทคนิคการเทรดนี้ให้มากขึ้นกันครับ
FVG ย่อมาจาก Fair Value Gap
หมายถึง ช่องว่างของราคาที่เกิดขึ้นบนกราฟ Forex ซึ่งเกิดจากการเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรงและรวดเร็ว มักเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ตลาดปิด หรือช่วงที่มีสภาพคล่องต่ำ ทำให้ราคาข้ามช่วงราคาไปโดยไม่มีการซื้อขาย เทรดเดอร์บางกลุ่มมองว่า FVG นั้นเปรียบเสมือน “แม่เหล็กดึงดูดราคา” ดึงดูดให้ราคาต้องกลับมาเคลื่อนที่ในบริเวณช่องว่างนั้นอีกครั้ง
ประเภทของ FVG Forex
FVG แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ดังนี้
FVG แนวตั้ง: เกิดขึ้นเมื่อราคาเคลื่อนที่ข้ามแนวต้านแนวรับที่สำคัญ
FVG แนวนอน: เกิดขึ้นเมื่อราคาเคลื่อนที่ข้ามช่วงราคาที่เคยมีการซื้อขายกันอย่างหนาแน่นในอดีต
การใช้ Fair Value Gap ในการเทรด
ใช้ FVG กับ Market Structure
ในการเทรดโดยใช้ FVG นั้น สามารถนำมาใช้กับ Market Structure ได้ ในกรณีที่ Market Structure อยู่ในช่วงที่เป็นขาขึ้น สามารถใช้ในการเทรดซื้อ แต่ถ้าอยู่ในช่วงที่เป็นขาลงก็ให้ทำการเทรดขาย
ใช้ FVG กับ Premium/Discount
ในการเทรดโดยใช้ ใช้ FVG กับ Premium หรือ Discount จะเป็นการซื้อที่แพงและซื้อถูก ถ้าเป็นผู้ดูแลสภาพคล่องหรือผู้ให้บริการสภาพคล่องโดยส่วนใหญ่แล้วมักจะซื้อในราคาที่ถูกมากกว่า อย่าเข้าไปซื้อหรือขายในราคาแพง แนะนำให้รอเหมือนผู้ดูแลสภาพคล่อง (Market maker)
ใช้ FVG เมื่อมี Rebalance เกิดขึ้น
สำหรับการเทรดโดยใช้ FVG เมื่อมี Rebalancing หรือ Failed Price Swing เกิดขึ้น โดยปกติแล้วราคามักจะทำการ Rebalance กับ FVG ซึ่งจะเกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ เราจึงต้องมองหาว่า จะมีการเกิด Rebalance หรือไม่ แต่ว่ามันต้องอยู่บนพื้นฐานของ Fail to break Market structure ด้วย เพราะมันคือสัญญาณของราคา
ใช้ FVG เมื่อมี Liquidity เกิดขึ้น
ปิดท้ายกันที่การเทรดโดยใช้ FVG เมื่อมี Liquidity เกิดขึ้น ในส่วนของ Liquidity ในการเทรดนั้น แนะนำให้หลีกเลี่ยงการเทรด FVG ที่ไม่มี Liquidity เกิดขึ้น เนื่องจาก Liquidity เป็นเหมือนการยืนยันว่าจะมีปริมาณการซื้อหรือขายที่เพียงพอ หากไม่มีการใส่ Liquidity เข้ามา ทิศทางการเทรดอาจไม่ชัดเจนได้ ข้อควรระวังคือ อย่าซื้อถ้ามีสัญญาณ Sell liquidity เกิดขึ้นและอย่าขายถ้ามีสัญญาณ Buy liquidity เกิดขึ้น
ข้อดีของการใช้ FVG Forex
เพิ่มโอกาสในการทำกำไร: FVG มักดึงดูดให้ราคาเคลื่อนที่กลับมาในบริเวณช่องว่าง ทำให้เทรดเดอร์มีโอกาสเข้าซื้อหรือเข้าขายเพื่อทำกำไร
สามารถใช้ได้กับทุก Timeframe: FVG สามารถพบเจอได้ในทุกกรอบเวลา ไม่ว่าจะเป็นกราฟรายวัน รายชั่วโมง หรือรายนาที
เป็นเทคนิคที่เรียบง่าย: การวิเคราะห์ FVG นั้นไม่ซับซ้อน สามารถเรียนรู้และใช้งานได้ง่าย
ข้อเสียของการใช้ FVG Forex
ไม่ใช่สัญญาณที่สมบูรณ์แบบ: ราคาอาจไม่กลับมาที่ FVG เสมอไป
ต้องอาศัยการวิเคราะห์ประกอบ: การใช้ FVG เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ควรวิเคราะห์ปัจจัยอื่นๆ เพิ่มเติม
มีความเสี่ยง: เช่นเดียวกับการเทรดทุกประเภท การใช้ FVG Forex ก็มีความเสี่ยง
สรุป
FVG Forex เป็นเทคนิคการวิเคราะห์กราฟที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไร แต่ไม่ใช่สัญญาณที่สมบูรณ์แบบ เทรดเดอร์ควรศึกษาและฝึกฝนการใช้ FVG ควบคู่กับการวิเคราะห์ปัจจัยอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อลดความเสี่ยงในการเทรด
แอดเหยี่ยวมีบทความการใช้ FVG อีกหนึ่งวิธีมาฝากด้วยครับ
คลิกลิงค์นี้อ่านต่อได้เลย https://www.wikifx.com/th/wikishow/202403192784988455.html?source=tso4
ขอบคุณข้อมูลจาก Uhas
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
การเทรด Forex ที่ประสบความสำเร็จสามารถเปรียบเทียบกับการเดินเรือข้ามมหาสมุทรที่ต้องใช้การวางแผนและความระมัดระวังในทุกขั้นตอน ซึ่งใน 5 วิธีที่กล่าวถึงนี้ ไม่มีขั้นตอนใดที่สามารถขาดไปได้: 1. Plan (การวางแผน) = จุดหมายปลายทาง 2. Strategy (กลยุทธ์) = แผนที่เส้นทางเพื่อที่จะไปยังจุดหมายปลายทาง 3. Risk Management (การจัดการความเสี่ยง) = ขับเรืออย่างระวังเพื่อที่จะไม่ให้ไปชนภูเขาน้ำแข็ง 4. Lookout for News (ติดตามข่าวสาร) = มีไหวพริบที่ดี สังเกตุถึงความผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้น 5. Play Your Own Game (เล่นเกมส์ชีวิตของตัวเองโดยไม่ไปแข่งกับผู้อื่น) = มุ่งไปหาเป้าหมายที่เราตั้งไว้
เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้กล่าวสุนทรพจน์ว่าด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจในงานเสวนาซึ่งจัดขึ้นที่เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัสเมื่อวานนี้ว่า
กฎสำคัญของการเทรดแบบ Scalping 1.ใช้กลยุทธ์ Scalping ที่มีคุณภาพ 2.หาจุดคุ้มทุน (Break-even stops) 3.อย่าคิดว่าการเทรดบ่อย ๆ จะทำให้ได้เงินเยอะ 4.ติดตามกลยุทธ์การเทรด 5.ปฏิบัติตามแผนกลยุทธ์การเทรดที่วางไว้ 6.เทรดด้วยอัตราการชนะที่มากกว่า 7.ใช้กรอบเวลาที่เหมาะสม 8.เริ่มต้นเล็ก ๆ ก่อน 9.เชี่ยวชาญในโครงสร้างตลาด 10.ฝึกฝนการเทรดทุกวัน
สเปรดมีความสำคัญต่อเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์เนื่องจากมีผลต่อต้นทุนการเทรดโดยตรง สเปรดที่ต่ำช่วยลดต้นทุนและรักษากำไรได้มากขึ้น โดยเฉพาะเทรดเดอร์ที่เทรดบ่อยหรือในปริมาณมาก สเปรดที่สูงสามารถลดกำไรเมื่อเวลาผ่านไป เทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์ Scalping และ Day Trading จะไวต่อสเปรดสูง เนื่องจากอาจลดหรือทำให้กำไรหายไป การเลือกโบรกเกอร์ที่มีสเปรดต่ำจึงสำคัญ ความผันผวนของตลาดอาจทำให้สเปรดกว้างขึ้น เทรดเดอร์มักเลือกเทรดในช่วงสภาพคล่องสูงและใช้คำสั่ง Limit เพื่อลดต้นทุน สุดท้าย การเลือกโบรกเกอร์ที่มีบัญชี ECN และการหลีกเลี่ยงข่าวผันผวนช่วยจัดการความเสี่ยงได้ดีขึ้น
Tickmill
EC Markets
Vantage
OANDA
IQ Option
Pepperstone
Tickmill
EC Markets
Vantage
OANDA
IQ Option
Pepperstone
Tickmill
EC Markets
Vantage
OANDA
IQ Option
Pepperstone
Tickmill
EC Markets
Vantage
OANDA
IQ Option
Pepperstone