简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:การทำบันทึกการเทรด (Trading Journal) เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยพัฒนาและยกระดับการเทรดของเราได้ดี สิ่งที่ควรบันทึกใน Trading Journal คือการคิดและการตัดสินใจทั้งก่อนและหลังการเทรด
นักเทรดอาจเคยได้ยินการจดบันทึกการเทรดกันมานานแล้ว ว่าเป็นสิ่งที่ดีในการช่วยพัฒนาวิธีการเทรด แต่นักเทรดมือใหม่ก็มักไม่ได้ให้ความสำคัญกับการจดบันทึกมากนัก เนื่องจากคิดว่าเป็นการเสียเวลา วันนี้แอดเหยี่ยวจึงอยากจะขอแชร์ความสำคัญของการจดบันทึก และหลักการบันทึกการเทรดที่ถูกต้อง บอกก่อนเลยการจดบันทึกนี้ถ้าทำได้อาจจะเป็นนักเทรดที่เก่งได้ไม่ยาก ไปเริ่มกันเลย
ความสำคัญของการทำ Trading Journal
การทำบันทึกการเทรด (Trading Journal) เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยพัฒนาและยกระดับการเทรดของเราได้ดี สิ่งที่ควรบันทึกใน Trading Journal คือการคิดและการตัดสินใจทั้งก่อนและหลังการเทรด เนื่องจากการเทรดจะแสดงผลลัพธ์เมื่อเกิดเหตุการณ์ไปแล้ว หลายคนมักพลาดขั้นตอนนี้โดยไม่ได้ทำการบันทึกภาพหน้าจอ ซึ่งทำให้เสียโอกาสในการเรียนรู้ ดังนั้น การทำ Trading Journal โดยใช้ภาพเป็นเครื่องมือจะช่วยให้เราเรียนรู้ได้เร็วขึ้น
นอกจากการบันทึกภาพ การทบทวนภาพเหล่านั้นซ้ำๆ จะช่วยให้เราจำรูปแบบการตัดสินใจและพัฒนาในการเทรดได้โดยไม่ต้องลองผิดลองถูกหลายๆ ครั้ง การทำบันทึกการเทรดเป็นการเก็บความทรงจำและเพิ่มเส้นการเรียนรู้ (Learning Curve) ในการเทรดอย่างรวดเร็ว บันทึกการเทรดที่ดีไม่ใช่เพียงการเขียนว่าตัวเองทำอะไรลงไป แต่ควรทำให้เราได้รับความรู้และเข้าใจในการเทรดมากยิ่งขึ้น
“คุณรู้หรือไม่ว่าสมองของเราจำภาพได้ดีกว่าตัวหนังสือ?” ระบบประสบการณ์ของมนุษย์ถูกสร้างมาเพื่อรับภาพ ดังนั้น การเทรดที่ดีและเพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว คือการบันทึกภาพการเทรดทั้งก่อนและหลังการเทรด ซึ่งจะช่วยให้เราจำได้ว่ากราฟเคยเป็นอย่างไรก่อนที่จะเปลี่ยนแปลง
หลักการทำบันทึกการเทรด
การทำบันทึกการเทรดมีอะไรบ้างที่จำเป็น แม้จะดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายที่จะตอบคำถามนี้ แต่ในความเป็นจริง การทำบันทึกการเทรดนั้นมีรายละเอียดมากกว่าที่คิด สิ่งที่ต้องมีในการทำบันทึกการเทรด ได้แก่:
1.เราคาดว่าจะเป็นอย่างไร
การทำบันทึกการเทรดมีเป้าหมายเพื่อเรียนรู้จากความผิดพลาด แม้ว่าคนเรามักไม่รู้แน่ชัดว่าจะถูกหรือผิด สิ่งสำคัญคือการบันทึกว่าเราทำอะไรและตัดสินใจอย่างไรก่อนหน้านี้ การตัดสินใจทำหรือไม่ทำบางอย่างทำให้การเทรดเป็นเรื่องน่าเบื่อ เทรดเดอร์ส่วนใหญ่มักจะไม่บันทึกการเทรดเพราะคิดว่าจะจำมันได้ เนื่องจากมันผ่านไปไม่นาน แต่การทำเช่นนี้สมองจะใช้เวลาเรียนรู้นานกว่าการ Capture ภาพและอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนและหลังการตัดสินใจเพื่อเปรียบเทียบ
นอกจากการ Capture ภาพหน้าจอทุกครั้งที่ทำการเทรดแล้ว สิ่งที่เราควรบันทึกคือความรู้สึกของเราตอนนั้น ทำไมเราถึงรู้สึกเช่นนั้น การนำภาพเหล่านี้กลับมาทบทวนเมื่อเวลาผ่านไปจะช่วยให้เราเกิด Learning Curve ซึ่งเหมือนกับการอ่านหนังสือที่ต้องทบทวนเพื่อจดจำและเข้าใจมากขึ้น
2.แล้วผลที่ได้ออกมาเป็นแบบใด
หลังจากที่เราได้ทำการพยากรณ์การเคลื่อนไหวของราคาแล้ว สิ่งที่เราต้องบันทึกคือผลลัพธ์ของการเคลื่อนไหวนั้น หลายคนอาจคิดว่า “ก็รู้แล้วว่าแบบนี้ถึงทำให้ขาดทุน” แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่แค่นั้น คนส่วนใหญ่มักไม่ตระหนักว่าการเทรดช่วงแรกๆ คือการฝึกฝน พวกเขาคิดว่าจะสามารถทำกำไรจากตลาดได้ทันที การมีเป้าหมายเพียงเพื่อทำเงินอย่างเดียวทำให้การเทรดกลายเป็นสนามทดลอง เสียเงินจำนวนมากและไม่สามารถเรียนรู้จากความผิดพลาดได้ ต้องทำผิดซ้ำ ๆ จนกว่าจะเข้าใจเหตุผลและวิธีการที่ถูกต้อง
ทำไมต้องทำเช่นนั้น ในเมื่อเราสามารถกลับไปดูภาพซ้ำ ๆ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้โดยไม่ต้องทำผิดพลาดบ่อย ๆ นี่แหละคือหัวใจของการทำบันทึกการเทรด
ตัวอย่างบันทึกการเทรด
ขอบคุณภาพจาก Thaibrokerforex
ภาพที่ 1 แสดงการพยากรณ์ราคาโดยการคาดการณ์หลังจากการเกิด Bottom ที่ 3 ว่าราคาจะพลิกกลับและไม่ลงเป็นระยะยาว เนื่องจาก 3 ครั้งที่ผ่านมาแสดงว่า ราคาไม่ได้ลงแรงมากนัก ความรู้สึกผมตอนนี้มันเหมือนกับว่า ราคาจะขึ้นถึง ราคา High เดิมหลังจาก Bottom แรกเลย แต่ว่าจะเป็นอย่างไรเรามาดูความเป็นจริงในภาพต่อไปนี้กัน
ขอบคุณภาพจาก Thaibrokerforex
หลังจากเส้นตรงสีฟ้า คือ เหตุการณ์หลังจากนั้นครับ เป็นยังไงครับ นี่คือผลของมัน ผมพบว่า ไอ้ที่เชื่อความรู้สึกตัวเองนั้นไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้น ผมพบว่า ทำตามเงื่อนไขของ indicator และเครื่องมือที่เราใช้ ก็ถ้าหากมันบอกให้กลับตัวก็กลับตัว ถ้าไม่ใช่ก็รอก่อน ซึ่งเช่นเดียวกัน การเทรดแบบนี้น่าจะส่งผลดีกว่า ผมก็เลยเขียนบันทึกไว้ว่า “ให้ทำตาม indicator” ดีกว่า
ขอบคุณข้อมูลจาก Thaibrokerforex
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
กว่าจะมาเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum เรื่องราวของ Vitalik Buterin เป็นมาอย่างไร?
การเทรด Forex ที่ประสบความสำเร็จสามารถเปรียบเทียบกับการเดินเรือข้ามมหาสมุทรที่ต้องใช้การวางแผนและความระมัดระวังในทุกขั้นตอน ซึ่งใน 5 วิธีที่กล่าวถึงนี้ ไม่มีขั้นตอนใดที่สามารถขาดไปได้: 1. Plan (การวางแผน) = จุดหมายปลายทาง 2. Strategy (กลยุทธ์) = แผนที่เส้นทางเพื่อที่จะไปยังจุดหมายปลายทาง 3. Risk Management (การจัดการความเสี่ยง) = ขับเรืออย่างระวังเพื่อที่จะไม่ให้ไปชนภูเขาน้ำแข็ง 4. Lookout for News (ติดตามข่าวสาร) = มีไหวพริบที่ดี สังเกตุถึงความผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้น 5. Play Your Own Game (เล่นเกมส์ชีวิตของตัวเองโดยไม่ไปแข่งกับผู้อื่น) = มุ่งไปหาเป้าหมายที่เราตั้งไว้
เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้กล่าวสุนทรพจน์ว่าด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจในงานเสวนาซึ่งจัดขึ้นที่เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัสเมื่อวานนี้ว่า
กฎสำคัญของการเทรดแบบ Scalping 1.ใช้กลยุทธ์ Scalping ที่มีคุณภาพ 2.หาจุดคุ้มทุน (Break-even stops) 3.อย่าคิดว่าการเทรดบ่อย ๆ จะทำให้ได้เงินเยอะ 4.ติดตามกลยุทธ์การเทรด 5.ปฏิบัติตามแผนกลยุทธ์การเทรดที่วางไว้ 6.เทรดด้วยอัตราการชนะที่มากกว่า 7.ใช้กรอบเวลาที่เหมาะสม 8.เริ่มต้นเล็ก ๆ ก่อน 9.เชี่ยวชาญในโครงสร้างตลาด 10.ฝึกฝนการเทรดทุกวัน
FxPro
FOREX.com
FBS
Octa
TMGM
EC Markets
FxPro
FOREX.com
FBS
Octa
TMGM
EC Markets
FxPro
FOREX.com
FBS
Octa
TMGM
EC Markets
FxPro
FOREX.com
FBS
Octa
TMGM
EC Markets