简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ปัญหาโควิด-19 ส่งผลกระทบวงกว้าง จากเดิมหลายบริษัทคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจปีนี้อาจไม่เติบโตหรือเติบโตน้อยมาก กลายเป็นว่าอาจจะมีโอกาสติดลบค่อนข้างสูง แต่สิ่งที่น่ากลัวสำหรับไทยไม่ใช่แค่เรื่องนี้ แต่เป็นเรื่องอนาคตอีก 10 ปีข้างหน้า ที่ประเทศพัฒนาแล้วเจออยู่
ปัญหาไวรัสโควิด-19 ณตอนนี้รุนแรงกว่าที่เศรษฐกิจโลกเตรียมตัวไว้มากก่อนหน้านี้ก็มีคำเตือนอยู่แล้วที่เศรษฐกิจของสหรัฐมีInverted Yield Curve หรือเส้น Yield Curve กลับหัวในพันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐในช่วง ก.ย.ที่ผ่านมา ที่อาจจะทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอย (Recession) แต่พอมีปัญหาไวรัสโควิด-19 ที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกสั่นคลอน กลายเป็น X-Factor หรือปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ในปีนี้
ดอกเบี้ยไทยทำสถิติต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ สยามพารากอนสูญเสียรายได้ไปแล้วกว่า 100 ล้านบาทใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จากการที่คนจีนไม่เข้าประเทศไทย AOT ปรับลดค่าเช่าร้านค้าในสนามบินลง 20% การบินไทยประกาศไม่สามารถยกเลิกตั๋วเครื่องบินของนักท่องเที่ยวจีน ทำได้แค่เลื่อนออกไปเท่านั้น
ช่อง 3 ประกาศโครงการสมัครใจลาออก เชฟโรเลตปิดตัว และอื่นๆ อีกมากมายครับ ตอนนี้กลายเป็นว่าจากเดิมที่หลายๆบริษัทคาดการณ์ไว้ว่าเศรษฐกิจปีนี้อาจจะไม่เติบโตหรือเติบโตน้อยมากๆกลายเป็นว่าอาจจะมีโอกาสติดลบค่อนข้างสูงสิ่งนี้ทำให้เห็นว่าปัจจัยในเรื่องของโลกาภิวัตน์มีผลเสียอย่างไร
เมื่อไม่นานมานี้ สหประชาชาติ ได้ทำสถิติของอัตราเด็กเกิดใหม่เทียบกับรายได้ต่อหัวในแต่ละประเทศ ส่วนใหญ่แล้วประเทศที่ด้อยพัฒนาก็จะมีอัตราเด็กเกิดใหม่สูงแต่รายได้ต่ำอย่างเช่น ไนเจอร์ในแอฟริกา ที่มีอัตราเด็กเกิดใหม่สูงที่สุดในโลกที่ประมาณ 7 คนต่อผู้หญิง 1 คน รองลงมาก็จะมี อิรัก และกาบอง ที่ 4 คนต่อผู้หญิง 1 คน จากนั้นก็ โอมาน และ อิสราเอลที่ 3 คน ซึ่งเมื่ออัตราตัวเลขของเด็กเกิดใหม่ต่ำลงเรื่อยๆ รายได้ของประชาชนในแต่ละประเทศก็สูงขึ้นตาม ประเทศส่วนใหญ่บนโลกจะอยู่ที่ประมาณ 1 ถึง 3 คน อย่างเช่น ลักเซมเบิร์ก นอร์เวย์ ญี่ปุ่น ซึ่งประเทศเหล่านี้เป็นประเทศที่พัฒนาทั้งสิ้น
แต่สิ่งที่น่ากลัวสำหรับประเทศเราไม่ใช่แค่เรื่องนี้แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับอนาคตภายในอีก10 ปีข้างหน้าปัญหาที่เรากำลังจะเจอใน10 ข้างหน้าเป็นสิ่งที่ประเทศที่พัฒนาแล้วกำลังเจอกันอยู่
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
จากเอกสารที่ตีพิมพ์โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกาพบว่า Berkshire Hathaway ของบัฟเฟตต์ขายหุ้นมูลค่ากว่า 30 ล้านดอลลาร์ในธนาคารแห่งนิวยอร์กเมลลอนเมื่อวันอังคารและวันพุธและหุ้นสหรัฐลดลงในช่วงต้นเดือนมีนาคม ในระหว่างนั้นบัฟเฟตต์เคยเพิ่มจำนวนการถือครองธนาคารสหรัฐนิวยอร์กเมลลอน 359 ล้านของเขา
ในช่วงบ่ายของวันที่ 30 มกราคม 2563 ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก Tan Desai ได้จัดงานแถลงข่าวที่กรุงเจนีวาประกาศการระบาดของโรคคอโรนาไวรัสใหม่ (ต่อไปนี้จะเรียกว่า " COVID-19") ในฐานะ "ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ (PHEIC)