简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ล่าสุด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ผุดไอเดีย ปรับกลยุทธ์ใหม่ เตรียมดึงนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่ถือสินทรัพย์ดิจิทัลหรือคริปโตเคอร์เรนซี่ เช่น บิทคอยน์ อีเธอร์เลียม เข้ามาเที่ยวเมืองไทย
วงการสกุลเงินดิจิทัล หรือคริปโตเคอเรนซี่นี่มาแรงไม่หยุด ล่าสุดได้ลามถึงวงการ การท่องเที่ยวของประเทศเราแล้ว โดยล่าสุด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ผุดไอเดีย ปรับกลยุทธ์ใหม่ มุ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพการใช้จ่ายสูง ภายใต้การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีครั้งใหญ่นี้
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เผยว่า ยอมรับว่าการท่องเที่ยวไทยหลัง COVID-19 จะไม่เหมือนเดิม ดังนั้น ททท.จะเน้นผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสร้างสรรค์และเน้นคุณภาพนักท่องเที่ยว จึงได้หารือกับสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) เพื่อเตรียมดึงนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่ถือสินทรัพย์ดิจิทัลหรือคริปโตเคอร์เรนซี่ เช่น บิตคอยน์ อีเธอร์เลียม เข้ามาเที่ยวเมืองไทย เพราะขณะนี้การใช้คริปโตเคอร์เรนซี่ในญี่ปุ่นได้รับความนิยมอย่างมาก โดยประชากรญี่ปุ่นถือคริปโตเคอร์เรนซี่อันดับ 1 ของโลก มีอัตราส่วนของคนที่ถือคริปโตเคอร์เรนซี่ 11% ของประชากรเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลกมีอัตราเพียง 7% ของประชากร คนกลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อสูง
“ประเทศไทยน่าจะมีความเป็นไปได้ในการดึงนักท่องเที่ยวผู้ถือคริปโตฯ เป็นประเทศแรกของโลก และเป้าหมายแรกที่ ททท.จะดึงเข้ามาคือตลาดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น” ขณะนี้การใช้คริปโตเคอเรนซี่เพื่อซื้อสินค้าในญี่ปุ่นได้รับความนิยมอย่างมาก มีธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารได้เข้าร่วมรับการจ่ายเงินคริปโตฯ ไม่แน่ว่าผู้มีชื่อเสียงระดับโลกด้านการลงทุนเงินดิจิทัลบิตคอยน์อย่าง อีลอน มัสก์ นักธุรกิจมหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งบริษัทรถยนต์ไฟฟ้า เทสลา อาจจะอยากมาเที่ยวไทยก็ได้หลังการระบาดของโควิด-19 จบลง
“ททท.จะขอหารือกับผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร รวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ถึงความเป็นไปได้ว่าหากกลุ่มผู้ถือคริปโตฯ เดินทางเข้ามาเที่ยวเมืองไทย จะมีกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวใดบ้างร่วมรับคริปโตฯ ที่มีอัตราการเติบโตสูง”
ในยุคของ COVID-19 รัฐบาลได้พยายามออกโครงการต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนในประเทศ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว อาทิ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน, คนละครึ่ง และเราชนะ ซึ่งนโยบายเหล่านี้ต้องใช้จ่ายผ่าน Application ‘เป๋าตังค์’ เท่านั้น ซึ่งหลายเสียงต่างออกมาวิพากย์วิจารณ์ถึงความไม่พร้อมของระบบ
ในขณะที่ไอเดียดึงนักท่องเที่ยวผู้ถือคริปโตฯ ถือเป็นอะไรที่ใหม่กับไทยมาก น่าสนใจว่า ททท. จะเลือกใช้วิธีการไหนสำหรับการชำระผ่านคริปโตฯ ที่ว่านี้ และโครงการนี้จะออกมาประสบความสำเร็จหรือไม่ นี่เป็นสิ่งที่พวกเราต้องติดตามต่อไป WikiFX พร้อมเกาะติดทุกสถานการณ์ เพื่ออัพเดตข่าวสารให้เร็วที่สุด คุณสามารถดาวน์โหลดแอปของเราเพื่อรับการแจ้งเตือนข่าวสารเหล่านี้ พร้อมบทวิเคราะห์ทางการเงิน แนวโน้มตลาด ที่หาจากที่ไหนไม่ได้ เพราะฉะนั้นไม่โหลดไม่ได้แล้วนะ โหลดฟรี!
คุณกำลังมองหาโบรกเกอร์ Forex แนะนำอยู่หรือไม่ ถ้าใช้ให้ดาวน์โหลดแอพ WikiFX เพื่อตรวจสอบโบรกเกอร์หรือดูการจัดอันดับ โบรกเกอร์ Forex เพราะแอพ WikiFX ได้ตรวจสอบโบรกเกอร์และคัดสรรมาให้หมดแล้ว ว่าโบรกเกอร์ไหนดีหรือไม่ดี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
บิตคอยน์ เทรดที่เว็บไซต์อินเวสต์ติง ดอท คอม เมื่อเวลา 05.40 น.ของวันนี้ (18ธ.ค.)ปรับตัวร่วงลง 3.80% เคลื่อนไหวที่ 46,276.4 ดอลลาร์
ราคาบิตคอยน์ เทรดที่เว็บไซต์อินเวสต์ติง ดอท คอม เมื่อเวลา 06.10 น.ของวันนี้ (14ธ.ค.)ปรับตัวร่วงลง 6.66% เคลื่อนไหวที่ราคา 46,939.6 ดอลลาร์
ราคาบิตคอยน์ดีดตัวขึ้นเกือบ 1.5% ในการซื้อขายที่ตลาดเอเชียช่วงเช้านี้ โดยราคาฟื้นตัวขึ้นมายืนเหนือระดับ 50,000 ดอลลาร์หลังนักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับโรคโควิด-19สายพันธุ์โอมิครอน
ราคาบิตคอยน์ เทรดที่เว็บไซต์อินเวสต์ติง ดอท คอม เมื่อเวลา 05.05 น.ของวันนี้ (23พ.ย.)ปรับตัวร่วงลง 5.33% เคลื่อนไหวที่ 56,298.1 ดอลลาร์
ATFX
Vantage
Neex
STARTRADER
Pepperstone
HFM
ATFX
Vantage
Neex
STARTRADER
Pepperstone
HFM
ATFX
Vantage
Neex
STARTRADER
Pepperstone
HFM
ATFX
Vantage
Neex
STARTRADER
Pepperstone
HFM