สรุปวิกฤต ‘เงินเฟ้อที่รุนแรงที่สุด’ ในประวัติศาสตร์เยอรมนี

หากคุณคิดว่าวิกฤติต้มยำกุ้งครั้งประวัติศาสตร์ของไทยที่เงินบาท จาก 25 กลายเป็น 50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ร้ายแรงแล้ว เรื่องราวต่อไปนี้อาจจะร้ายแรงกว่าจนคุณคาดไม่ถึง นี่คือเรื่องราวของเงินเฟ้อที่รุนแรงที่สุดของประเทศเยอรมนี ที่เงิน 4,200,000,000,000 มาร์ค มีค่าเพียง 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่านั้น

ภาวะเงินเฟ้อของเยอรมนี เกิดพร้อมกับสงครามโลกครั้งที่ 1 ในปี 1914 โดยในช่วงเวลานั้น รัฐบาลเยอรมันเชื่อว่าด้วยเทคโนโลยีและยุทธวิธีของพวกเขา จะชนะสงครามได้ในเวลาสั้นๆและประเทศจะต้องร่ำรวยขึ้น จากการเป็นผู้ชนะสงคราม ด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม แทนที่จะหาเงินมาผลิตอาวุธด้วยการเก็บภาษี หรือวิธีออกพันธบัตร หรือหาเงินอะไรตามปกติ ทางรัฐบาลตัดสินใจที่จะ “พิมพ์ธนบัตร” เป็นจำนวนมาก

ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เยอรมนีพ่ายแพ้สงคราม (ในช่วงปี 1918) รัฐบาลเยอรมนีจำเป็นต้องชดใช้ค่าปฏิกรรมสงครามกับประเทศผู้ชนะสงคราม อย่างอังกฤษ และฝรั่งเศส ตามสนธิสัญญาแวร์ซายน์ (ค่าปฏิกรรมสงครามที่เยอรมนีต้องชดใช้ในสมัยนั้นคือ ปีละ 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับค่าเงินปัจจุบันประมาณ 14 ล้านล้านบาท)

เมื่อเยอรมนีต้องหาเงินมาจ่ายค่าปฏิกรรมสงคราม ก็จะไม่มีเงินไปลงทุนด้านอื่น ๆ ค่าเงินในประเทศค่อยๆ อ่อนลงไปทีละน้อย เพราะความเชื่อมั่นในเงินมาร์คของพวกเขาลดลง ถึงช่วงปลายปี 1920 ชาวเยอรมันจะต้องใช้เงิน 90 มาร์ค ในการแลกเงิน 1 ดอลลาร์สหรัฐ

ช่วงต้นปี 1921 ปัญหาเลวร้ายลงไปอีก เมื่อฝรั่งเศสมองว่าเยอรมนีไม่สามารถจ่ายค่าชดเชยสงครามได้ จึงตัดสินใจเข้ายึดท่าเรือสำคัญ 3 แห่ง ซึ่งทำให้แหล่งผลิตรายได้ของประเทศยิ่งลดน้อยลงไปอีก รัฐบาลพยายามขึ้นภาษี แต่การขึ้นภาษีก็ทำให้คนรวยในประเทศพยายามใช้จ่ายเงินจำนวนมาก เพราะไม่อยากมีกำไรที่ต้องเสียภาษีเยอะ

ขณะที่คนรวยใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือย คนจนก็ยังคงไม่มีจะกิน ปัญหาเงินเฟ้อกก็ยังไม่ได้ลดลง

การเพิ่มขึ้นของปริมาณเงิน Mark ตั้งแต่ปี 1922-1925 ทำให้ระดับราคาสินค้าเฉลี่ยภายในเยอรมนีเพิ่มสูงตามไปด้วย ราคาของที่ขายในร้านค้าปกติจะถูกปรับขึ้นในทุก ๆ วัน ทำให้เกิดการประท้วงและความอดอยากขึ้นอย่างมากมายจนถึงขนาดว่าประชาชนในสมัยนั้นเอาเงินมาโยนเล่นเผาเล่น หรือเอามาเป็นของเล่นให้เด็ก ๆ แทนของเล่นอย่างอื่นกันเลย สถานการณ์ยิ่งตึงเครียดมากขึ้น ทั้งเรื่องรัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนีถูกลอบสังหาร แถมฝรั่งเศสไม่ได้รับเงินค่าชดเชยสงครามที่พอใจ ก็ขู่ว่าจะเข้ายึดครองเยอรมนี จนถึงปลายปี 1922 ค่าเงินอ่อนค่าลงไปเป็น 7,400 มาร์ค ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐแล้ว

ต้นปี 1923 ฝรั่งเศษได้ตัดสินใจเข้ายึดครองเขตอุตสาหกรรมเหมือง Ruhr ของเยอรมนี ที่ผลิตถ่านหินถึง 85% ของประเทศ เป็นการตัดเส้นทางหาเงินสำคัญ ยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงอีก ทันทีที่บุกยึด เงินเยอรมันก็อ่อนค่าลงไปทันทีเป็น 50,000 มาร์ค ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ

ขณะที่ทางรัฐบาล ยังคงพิมพ์เงินออกมาเรื่อย ๆ เพื่อจ่ายให้แรงงานพอใจ ให้พวกเขาเลิกประท้วงกลับไปทำงานอีกครั้ง แต่ปัญหาจริง ๆ คือ กำลังการผลิตและแหล่งอุตสาหกรรมของเยอรมนีนั้น ไม่ได้เหลืออยู่มากพอที่จะกู้เศรษฐกิจได้แล้ว จนในเดือนพฤศจิกายนปีนั้น ได้รับการบันทึกว่าเป็นจุดเลวร้ายที่สุดของเงินเฟ้อ เพราะชาวเยอรมัน ต้องใช้เงิน 4,200,000,000,000 มาร์ค (สี่ล้านสองแสนล้านมาร์ค) เพื่อแลกเงินเพียง 1 ดอลลาร์สหรัฐ

ภาวะเงินเฟ้อนี้ครั้งนี้ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเยอรมนี ที่นำมาสู่สงครามครั้งต่อไปที่ขึ้นชื่อว่าเลวร้ายที่สุดของมวลมนุษยชาติ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป WikiFX จะกลับมาเล่าให้ฟังแน่นอน อยากอ่านตอนต่อไปก็โหลดแอป WikiFX ไว้เลย เพราะเรื่องมาเมื่อไหร่แจ้งเตือนเมื่อนั้น โหลดวันนี้ฟรี ๆ เลย

(ขอบคุณข้อมูลจาก johndclare.net, billionway.co, phorbangerman.com)

คุณกำลังมองหาโบรกเกอร์ Forex แนะนำอยู่หรือไม่ ถ้าใช้ให้ดาวน์โหลดแอพ WikiFX เพื่อตรวจสอบโบรกเกอร์หรือดูการจัดอันดับ โบรกเกอร์ Forex เพราะแอพ WikiFX ได้ตรวจสอบโบรกเกอร์และคัดสรรมาให้หมดแล้ว ว่าโบรกเกอร์ไหนดีหรือไม่ดี