简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:จากคลิปในเนื้อหารายการจากช่องฐานเศรษฐกิจ วันที่ 10 มีนาคม 2565 มีการพูดคุยกันถึงเรื่องความผันผวนในตลาดหุ้น และโอกาสของทองคำ และ บิทคอยน์
จากคลิปในเนื้อหารายการจากช่องฐานเศรษฐกิจ วันที่ 10 มีนาคม 2565 มีการพูดคุยกันถึงเรื่องความผันผวนในตลาดหุ้น และโอกาสของทองคำ และ บิทคอยน์
โดยตัวอย่างธุรกิจในตลาดหุ้นที่คุณลุงนำเสนอคือ ธุรกิจถ่านหิน บริษัท บ้านปู (Banpu)
หุ้นอีกหนึ่งตัวในตำนาน ถึงแม้ราคาถ่านหิน ราคาแพงขึ้น แต่ตัวหุ้นบ้านปูราคาไม่จำเป็นต้องขึ้นตาม
คุณลุงให้คิดภาพตามว่าสิ่งเหล่านี้ไม่เกี่ยวกันเพราะหากของราคาแพงขึ้น ต้นทุนของธุรกิจก็ต้องเพิ่มขึ้นด้วย ต่อมามีการตั้งคำถามถึงเรื่องทองคำ และ บิทคอยน์
โดยคุณลุงได้พูดถึงทองคำ ก่อนว่าตอนนี้มูลค่ามันไปไกลมากแล้ว และหากสงครามยูเครนจบขึ้นจริง ทองคำเองถึงแม้จะมีสิทธิ์ลงมาแต่การขึ้นลงแบบนี้คุณลุงโฉลกของเรียกมันว่า การขึ้น-ลง แบบ Speculator (นักเกร็งกำไร) เพราะว่าทองคำก็จะมีโอกาสขึ้นต่อเข้าไปอีก
และได้มีการกล่าวถึง ธนาคารแห่งชาติ ที่มีกระแสข่าวว่าได้ซื้อทองคำไปมากกว่า 60 ตัน
เพราะมองจากการประเมินสถานการณ์ของโลกในยุคปัจจุบัน ธนาคารอาจจะเล็งเห็นแล้วว่า ควรต้องซื้อทองคำ และบิทคอยน์ เป็นกองทุนสำรองเอาไว้
แต่เนื่องจากการซื้อบิทคอยน์ อาจจะมีปัญหาตามมาที่หลัง เพราะก็อย่างที่เราทราบกันว่า หากธนาคารแห่งชาติเข้ามาซื้อ บิทคอยน์ เมื่อไหร่ ก็เท่ากับยอมรับว่าตัวเองไม่มีประสิทธิภาพในการควบคุมดูแลระบบการเงินของประเทศนั้นๆ เท่ากับยอมรับบิทคอยน์จะเข้ามาควบคุมตามระบบ Decentralized Finance หรือ DeFi จึงเลือกไปซื้อทองคำเก็บไว้แทน และลุงย้ำอีกครั้งว่าทองคำอาจจะมีโอกาสพุ่งขึ้นต่อไปอีก
โดยลุงโฉลก ยังแนะนำถึงหลักการ money management การเก็บสินทรัพย์ในพื้นที่ปลอดภัย เช่นทองคำ บิทคอยน์ โดยลุงแนะนำว่าตัวเขาถอนเงินออกจากตลาดหุ้น ชั่วคราว และย้ายไปยังที่อื่น หลักการเอาเงินไปลงทุนไว้ที่อื่น ที่ไม่เสี่ยงต่อการด้อยค่า เช่นหุ้น ถึงแม้หุ้นจะกลับมาขึ้น แต่ไม่แน่นอนเพราะต้องขึ้นอยู่ความผันผวนจากตลาดใหญ่อย่าง DowJones
อยากเข้าใจว่าทำไมทองคำถึงเป็นของมีค่า และบิทคอยน์จะเข้ามาแทนที่ระบบการเงินแบบใหม่ได้อย่างไร
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
บทความนี้พูดถึงการทำลายความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับบิตคอยน์ โดยแสดงให้เห็นว่าบิตคอยน์ไม่ใช่ฟองสบู่ที่รอวันแตก หรือแค่เครื่องมือเก็งกำไรเท่านั้น บิตคอยน์มีการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน รวมถึงการรับชำระเงินจากบริษัทใหญ่ๆ และยังถูกใช้เป็นทางเลือกในการป้องกันเงินเฟ้อในบางประเทศที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจ บิตคอยน์ยังมีมูลค่าจริงเพราะมันมีจำนวนจำกัด และระบบบล็อกเชนที่ปลอดภัย อีกทั้งมันยังได้รับการยอมรับจากรัฐบาลหลายประเทศ รวมทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มความสะดวกในการทำธุรกรรมด้วย.
หมอฟรัง นรีกุล เปิดใจในรายการ NEW GEN INVESTOR ว่าลงทุนคริปโตไปกว่า 2 ล้านบาท แต่พอร์ตดิ่งเหลือเพียง 6 แสนบาท ก่อนตัดสินใจ Cut Loss ออกมา แม้จะเชื่อมั่นในอนาคตของคริปโต แต่ความผันผวนของตลาดก็ไม่ปรานีใคร!
Zipmex แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลชื่อดังต้องเผชิญวิกฤตหนักจากการระงับการถอนเงินในปี 2565 เนื่องจากปัญหาสภาพคล่องที่เชื่อมโยงกับ Celsius และ Babel Finance ที่ล้มละลาย ส่งผลให้นักลงทุนเสียหายมหาศาล แม้จะพยายามแก้ไขปัญหา แต่ความเชื่อมั่นของผู้ใช้ก็ลดลงอย่างมาก สำนักงาน ก.ล.ต. และ DSI ได้เข้าตรวจสอบ Zipmex นำไปสู่คดีพิเศษ และล่าสุด ศาลอาญากรุงเทพใต้ได้ตัดสินให้ Zipmex มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน พร้อมลงโทษจำคุกอดีตผู้บริหาร 5 ปี กรณีนี้เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับนักลงทุนคริปโตในการกระจายความเสี่ยงและติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด
การเปิดตัวเหรียญมีมของทรัมป์สร้างความขัดแย้งครั้งสำคัญในวงการคริปโทฯ ในขณะที่อุตสาหกรรมเพิ่งประสบความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์จากการอนุมัติ Bitcoin ETF และการพัฒนากรอบกฎหมายที่ชัดเจนในหลายประเทศ การที่ทรัมป์ ผู้ที่ถูกคาดหวังให้เป็นผู้สนับสนุนหลัก กลับเลือกที่จะเปิดตัวเหรียญที่เน้นการเก็งกำไรระยะสั้น ได้สั่นคลอนความน่าเชื่อถือที่วงการพยายามสร้างมาอย่างยาวนาน
STARTRADER
ATFX
FxPro
EC Markets
OANDA
IB
STARTRADER
ATFX
FxPro
EC Markets
OANDA
IB
STARTRADER
ATFX
FxPro
EC Markets
OANDA
IB
STARTRADER
ATFX
FxPro
EC Markets
OANDA
IB